ก่อนหน้านี้ Audi ได้ยกเลิกการใช้ตัวเลขระบุขนาดเครื่องยนต์และหันไปใช้ตัวเลขที่ดูเหมือนสุ่มแทน นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนระบบตัวอักษรและตัวเลขให้ใช้เลขคี่สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและเลขคู่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ล่าสุด Audi ได้เปลี่ยนกลับไปใช้ระบบที่เข้าใจง่ายขึ้นและคุ้นเคยมากขึ้น (อีกแล้วครับ)
Audi ปรับเปลี่ยนระบบตั้งชื่อรุ่นใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น (อีกแล้ว)
ระบบการตั้งชื่อใหม่ของ Audi จะใช้ตัวอักษรร่วมกับตัวเลขเพื่อแสดงถึงรูปแบบตัวถัง และขนาดของรถ เช่นเดียวกับที่เคยใช้มาก่อนหน้า:
- ตัวอักษร “A” หมายถึงรถยนต์ซีดาน
- ตัวอักษร “Q” หมายถึงรถ SUV
ตัวอย่างให้เห็นภาพ Audi A6 ยังคงเป็นรถซีดานขนาดกลาง และ Audi A4 จะเป็นรถซีดานขนาดเล็ก แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือ วิธีแยกแยะรถยนต์ไฟฟ้าออกจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ทาง Audi จะแบ่งประเภทของรถด้วยตราสัญลักษณ์ดังนี้:
- รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้ป้าย “e-tron”
- รถยนต์เบนซินจะใช้ป้าย “TFSI”
- รถยนต์ดีเซลจะใช้ป้าย “TDI”
การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ระบบการตั้งชื่อของ Audi กลับมาเป็นมาตรฐานเดิมที่เข้าใจง่ายและลดความซับซ้อนของรุ่นรถที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
เหตุผลที่ Audi ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง
Audi ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากเสียงตอบรับของตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าทั่วโลก โดย Marco Schubert กรรมการบริหารฝ่ายการขายและการตลาดของ Audi กล่าวไว้ว่า:
“การตัดสินใจครั้งนี้เป็นผลจากการหารืออย่างเข้มข้นและเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงข้อเสนอแนะจากตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก ระบบตั้งชื่อใหม่ของเราช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถเข้าใจทั้งเรื่องของขนาด และตำแหน่งของรถในไลน์อัพรถของเราได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น”
รถรุ่นแรกที่จะใช้ระบบตั้งชื่อใหม่นี้
รถรุ่นแรกที่ใช้ระบบชื่อใหม่ก็คือ Audi A6 โดยเดิมที Audi A6 จะเป็นรถไฟฟ้าและใช้ชื่อ A6 e-tron ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์สันดาปจะถูกเรียกว่า A7 แต่ตามระบบใหม่ ทั้งหมดจะถูกเรียกว่า A6 แต่แยกตามป้ายพลังงาน ได้แก่:
- A6 TFSI (เครื่องยนต์เบนซิน)
- A6 e-tron (ไฟฟ้า)
- A6 TDI (ดีเซล)
แต่ Audi จะไม่ใช้โครงสร้างใหม่นี้ย้อนหลังกับรุ่นที่ได้เปลี่ยนแปลงชื่อไปก่อนหน้านี้แล้ว นั่นหมายความว่า Audi A4 และ A5 จะยังคงมีชื่อแยกกัน แม้ว่าจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และเครื่องยนต์สันดาปที่เป็นไซส์เดียวกันก็ตามครับ
Audi ควรได้รับคำชมสำหรับการยอมรับความผิดพลาดและทำการแก้ไข การเปลี่ยนแปลงระบบตั้งชื่อครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดซึ่งช่วยให้ลูกค้า รวมถึงตัวแทนจำหน่ายเข้าใจผลิตภัณฑ์ของ Audi ได้ดีขึ้น และทำให้ระบบการตั้งชื่อกลับมามีความหมายที่ชัดเจนอีกครั้ง
ที่มา : The Drive