เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา Avatr ได้เปิดตัว Avatr 11 รุ่นปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรถ SUV อัจฉริยะระดับหรูรุ่นเรือธงของแบรนด์ โดยมีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อย ทั้งในแบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน (BEV) และแบบขยายระยะการวิ่ง (REEV) โดยราคาเริ่มต้นที่ 289,900 หยวน หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท
เปิดตัว Avatr 11 รุ่นปรับโฉมใหม่ในจีน พร้อมรุ่นพิเศษ Dark Knight ช่วงล่าง KONI
Avatr 11 ทุกรุ่น มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Huawei ได้แก่ LiDAR 3 จุด และระบบขับขี่อัตโนมัติ Qiankun ADS ซึ่งช่วยให้รถสามารถนำทางแบบอัตโนมัติจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ รวมถึงสามารถจอดรถได้เอง เพิ่มความสะดวก ความปลอดภัย และให้ประสบการณ์ขับขี่ที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
สำหรับรุ่น Max ซึ่งมีทั้งเวอร์ชันขยายระยะทาง (REEV) และเวอร์ชันไฟฟ้าล้วน (BEV) มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมียม เช่น ระบบเสียง Bowers & Wilkins, สปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟ, ประตูดูดไฟฟ้า, เบาะหน้า Zero-gravity และเบาะหลังที่มีระบบระบายอากาศ อุ่นเบาะ และนวดได้
ในรุ่น Max REEV จะใช้ระบบขยายระยะทางอัจฉริยะ Kunlun ที่สามารถวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 225 กม. และระยะทางรวมสูงสุดถึง 1,065 กม. ตามมาตรฐาน CLTC โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในโหมดขยายระยะเพียง 6.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
ส่วนรุ่น Max ที่เป็นเวอร์ชันไฟฟ้าล้วน BEV สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มซิลิคอนคาร์ไบด์ 800V พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 116 kWh จาก CATL สามารถวิ่งได้ไกลถึง 815 กม. ตามมาตรฐาน CLTC และสามารถชาร์จจาก 30% – 80% ได้ในเวลาเพียง 25 นาที
รุ่นพิเศษ Dark Knight
หนึ่งในไฮไลต์ของการเปิดตัวครั้งนี้คือ การเผยโฉมรุ่น Dark Knight ซึ่งเป็นรุ่นแต่งพิเศษที่เน้นสมรรถนะ มาพร้อมช่วงล่างสมรรถนะสูงจาก KONI ซึ่งปกติจะพบได้ในรถหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี
รุ่นพิเศษ Dark Knight เป็นการปรับแต่งเพื่อเน้นสมรรถนะครั้งแรกของ Avatr ตัวรถภายนอกใช้สีเทาด้านพิเศษ ให้ลุคเฉียบคมลึกซึ้ง ภายในใช้โทนสีแดงเลือดหมูที่ดูสปอร์ตเร้าใจ โดยยังมีตัวเลือกสีตัวถังแบบดำเงา (Brilliant Black) และภายในสีม่วงหรือสีขาวควันบุหรี่ (Smoke White) ให้เลือกเพิ่มเติมด้วย
ช่วงล่างของรุ่นนี้ใช้ชุดช่วงล่างประสิทธิภาพสูงจาก KONI แบบเดียวกับที่ใช้ในรถหรูอย่าง Maserati Ghibli, Lamborghini Gallardo และ Ferrari Portofino โดยมีเทคโนโลยีการปรับความหนืดแบบกว้างพิเศษ สามารถตั้งค่าความหนืดได้ตั้งแต่ -15% ถึง 50% รองรับการปรับความเร็วได้ถึง 20 ระดับ และตอบสนองสภาพถนนได้ภายในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที
ที่มา carnewschina