บริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ได้ขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดในบริษัท BYD ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นการสิ้นสุดการลงทุนที่ยาวนานถึง 17 ปี โดยราคาหุ้น BYD เพิ่มขึ้นถึง 3,890% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งผู้บริหารของ BYD ให้ความเห็นว่า การซื้อขายหุ้นเป็นเรื่องปกติ
Berkshire ของ Buffett ขายหุ้น BYD ทั้งหมดแล้ว หลังจากถือครองมา 17 ปี
Berkshire Hathaway เข้าซื้อหุ้น BYD ในปี 2008 ตามคำแนะนำของ Charlie Munger โดยลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,418 ล้านบาท) เพื่อเข้าซื้อหุ้น 225 ล้านหุ้นในราคา 8 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 37.36 บาท) ต่อหุ้น
รายงานจากสำนักข่าว MSN ระบุว่า การลงทุนใน BYD ครั้งนี้เป็นผลมาจากแรงสนับสนุนอย่างมากของ Charlie Munger ที่เคยกล่าวไว้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2009 ว่า “Warren และผมอาจดูเหมือนคนบ้า แต่ผมมองว่าบริษัทและคุณหวัง ฉวนฟู่ (CEO ของ BYD) เป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์”
Berkshire เริ่มขายหุ้น BYD ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2022 โดยลดสัดส่วนการถือครองจาก 20.04% เหลือ 19.92%
ล่าสุด หลี่ หยุนเฟย ผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ BYD ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย Weibo ว่า “การลงทุนในหุ้นก็มีทั้งการซื้อและขาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ” และยังได้กล่าวขอบคุณ Munger และ Buffett ที่เล็งเห็นศักยภาพของ BYD พร้อมทั้งแสดงความซาบซึ้งต่อการลงทุนและการสนับสนุนตลอด 17 ปีที่ผ่านมา
การขายหุ้นยังคงดำเนินต่อไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งในปี 2024 Berkshire ได้ลดสัดส่วนการถือครองลงมาต่ำกว่า 5% ทำให้ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลการถือครองหุ้นอีกต่อไป และในที่สุด CNBC ก็รายงานในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาว่า Berkshire ได้ขายหุ้นที่เหลือทั้งหมด ทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นเป็นศูนย์
สถานการณ์ปัจจุบันของ BYD
ปัจจุบัน BYD กำลังเผชิญกับสงครามราคาและการแข่งขันที่ดุเดือดในประเทศจีน โดยในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวหรือเปิดตัวแบรนด์ใหม่ถึง 3 แบรนด์ ได้แก่ Denza, Fang Cheng Bao และ Yangwang เพื่อขยับตลาดสู่ระดับพรีเมียมมากขึ้น แต่ยอดขายของบริษัทเริ่มชะลอตัวลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเติบโตอย่างต่อเนื่องมาหลายปี
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา BYD มียอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วโลก 341,030 คัน เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และในเดือนสิงหาคม ยอดขายอยู่ที่ 371,501 คัน เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบปีต่อปีที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021
ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพลังงานไฟฟ้า (ทั้ง BEV และ PHEV) โดยรวมในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 12.4% (เป็น 987,000 คัน) และในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 7.2% (เป็น 1,101,000 คัน)
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า BYD ได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายประจำปี 2025 จากที่เคยประกาศไว้ 5.5 ล้านคัน เหลือ 4.6 ล้านคัน โดยข้อมูลจาก China EV DataTracker ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม BYD มียอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วโลกแล้ว 2,830,415 คัน
ที่มา carnewschina