ถึงแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยจะมีตัวเลือกไม่มากนัก หากเทียบกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศอย่างจีนและยุโรป แต่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023 นี้ ข้อมูลการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าทำให้เราได้ทราบว่า อัตราการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในไทยสูงขึ้นมาก และ BYD ก็ครองแชมป์จำนวนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยติดต่อกันถึง 6 เดือน
BYD ครองแชมป์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยติดต่อกัน 6 เดือน
ในเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ 45,287 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 5,559 คัน คิดเป็น 12.3% ของตลาด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีสัดส่วนไม่ถึง 2%
ในเดือนพฤษภาคม 2023 พบว่า แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขายดีที่สุด 5 อันดับแรกในประเทศไทย ได้แก่ BYD, Tesla, MG, Neta และ ORA โดย BYD ครองตำแหน่งสูงสุดด้วยจำนวนยอดขาย 2,027 คัน, Tesla 1,072 คัน, MG 1,017 คัน, Neta 686 คัน และ Ora 430 คัน ทำให้ BYD ยังคงครอบแชมป์ยอดขายติดต่อกันถึง 6 เดือน นับตั้งแต่ขึ้นเป็นที่หนึ่งในเดือนธันวาคม 2022
เมื่อจัดอันดับจำนวนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าตามรุ่นแล้ว เห็นได้ว่า BYD รุ่น ATTO 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย ในเดือนพฤษภาคม ทำจำนวนยอดขายได้ 2,025 คัน ตามมาด้วย Tesla Model Y ที่มีจำนวนยอดขาย 840 คัน และ Neta V ที่ทำยอดขายได้ 686 คัน และรุ่นอื่น ๆ ตามลำดับ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลในปี 2020 ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 1,056 คัน ส่วนปี 2021 ขายได้ 1,935 คัน และในปี 2022 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าก็สูงขึ้นอย่างมาก ทำยอดขายได้ถึง 9,729 คัน และพีคที่สุดคือในปี 2023 ที่ผ่านมาเพียงครึ่งปี (มกราคม – พฤษภาคม) ขายรถไฟฟ้าไปแล้วถึง 24,106 คัน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีที่แล้ว
BYD ก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยและทำยอดขายได้อย่างก้าวกระโดด ประเดิมด้วย ATTO 3 เป็นรุ่นแรก และทำยอดขายได้สูงสุด ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตัว BYD รุ่น Dolphin และคาดว่าจะเข้ามาในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ก็อาจจะช่วยเพิ่มยอดขายของ BYD ให้สูงขึ้นไปอีกในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ BYD ยังมีอัตราการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากด้วย โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่นมา BYD ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าถึง 10,213 คัน เพิ่มขึ้น 23 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 โดยรุ่นที่ส่งออกหลัก ๆ ได้แก่ ATTO 3 จำนวน 5,338 คัน, Song Plus จำนวน 2,250 คัน และ Dolphin จำนวน 1,598 คัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามอง
ที่มา carnewschina