ใน ,

BYD Fang Cheng Bao Bao 5 Long-Range Edition เปิดตัวแล้ว ประมาณ 1.38 ล้านบาท

Fang Cheng Bao ภายใต้แบรนด์ BYD ได้เปิดตัวรถ SUV รุ่น Bao 5 เวอร์ชั่น Long Range อย่างเป็นทางการ โดยมี 4 รุ่นย่อยใหม่ที่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 210 กม. ราคาสำหรับไลน์อัพใหม่นี้อยู่ระหว่าง 269,800 หยวน (ประมาณ 1.38 ล้านบาท) ถึง 329,800 หยวน (ประมาณ 1.69 ล้านบาท)

BYD Fang Cheng Bao Bao 5 Long-Range Edition เปิดตัวแล้ว ประมาณ 1.38 ล้านบาท

Bao 5 เวอร์ชั่น Long-Range นี้ มาพร้อมการอัปเกรดเทคโนโลยีหลักหลายส่วน ได้แก่ แพลตฟอร์ม DMO+ ที่ปรับปรุงใหม่, ระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei Qiankun Intelligent Driving ADS 4 และระบบนิเวศอัจฉริยะของ BYD (BYD intelligent ecosystem) ที่ดีขึ้น

หัวใจสำคัญของรถรุ่นใหม่คือแพลตฟอร์ม DMO+ ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่เจ้าของรถ Bao 5 รุ่นปัจจุบันก็จะได้รับผ่านการอัปเดตแบบ over-the-air (OTA) เช่นกัน แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ชื่อ Full-Speed Domain Road Surface Perception Control Technology หรือเทคโนโลยีการควบคุมการรับรู้พื้นผิวถนนในทุกย่านความเร็ว ซึ่งจะปรับปรุงระบบควบคุมการรับรู้พื้นผิวถนนที่มีอยู่เดิมให้ละเอียดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าการส่งกำลังแรงบิดและการควบคุมที่แม่นยำของรถจะไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วเท่าใด อยู่บนภูมิประเทศแบบไหน หรือในสภาพการทำงานใดก็ตาม

ในด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง รุ่น Fang Cheng Bao Bao 5 Qiankun Edition จะมาพร้อมกับระบบ Huawei Qiankun Intelligent Driving ADS 4 ที่อัปเกรดใหม่ ระบบนี้รองรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านระบบคลาวด์ ซึ่งจะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานในรถราบรื่นยิ่งขึ้น การจอดรถทำได้ง่ายดายกว่าเดิมด้วยระบบ Parking Space to Parking Space 2.0 ที่ปรับปรุงใหม่ ในขณะที่ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก็ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งด้วย All-Dimensional Anti-Collision System CAS 4.0

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบออฟโรดและผู้ที่ใช้งานในเมือง รุ่น Bao 5 DiSus version จะติดตั้งระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะแบบไฮดรอลิก DiSus-P ที่สามารถปรับความหนืด ความสูง และความแข็งของช่วงล่างได้

นอกจากนี้ แชสซียังมีฟังก์ชัน Active pre-scanning และ Four-wheel linkage ด้วยความสามารถในการลุยน้ำได้ลึกสูงสุด 790 มม. และปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ 140 มม. ทำให้รถคันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยออฟโรดแบบสมบุกสมบัน

ภายในห้องโดยสาร มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความอัจฉริยะ ได้แก่ ที่พักน่องสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า และโหมด Big Bed ที่ปรับเบาะหน้าให้ราบได้ในปุ่มเดียว ส่วนฟีเจอร์อัจฉริยะก็ขยายเพิ่มขึ้นด้วยโหมดป้องกันอาการเมารถ และระบบปรับอากาศอัจฉริยะ 2.0 ที่มาพร้อมโหมดป้องกันฝ้าอัจฉริยะ ระบบเครื่องเสียง Devialet ยังได้รับการปรับปรุงทั้งในด้านจำนวนลำโพง จำนวนช่องสัญญาณเสียง และประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์

ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก Bao 5 รุ่นใหม่มีสีตัวถังให้เลือก 5 สี และโทนสีภายใน 3 แบบ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบล้อลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว และ 20 นิ้ว และที่ด้านหลังของตัวรถ บริเวณระบบขับขี่อัจฉริยะจะมีไฟสีน้ำเงินแบบจาง ๆ เพิ่มเข้ามา

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.