Nuttanon P.
BYD ได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนจากประมาณ 3.039 พันล้านหยวน (ประมาณ 15,600 ล้านบาท) เป็น 9.117 พันล้านหยวน (ประมาณ 46,900 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นกว่า 200% ตามข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทที่รายงานโดย IT-Home
BYD เพิ่มทุนจดทะเบียนกว่า 200% ราว 46,900 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจครั้งใหญ่
นี่ถือเป็นการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ของ BYD ในปี 2025 ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม แบรนด์ได้เพิ่มทุนจาก 2.909 พันล้านหยวน (ประมาณ14,900 ล้านบาท) เป็น 3.039 พันล้านหยวน (ประมาณ 15,600 ล้านบาท)
BYD Company Limited ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 1995 โดยมี Wang Chuanfu เป็นตัวแทนทางกฎหมาย เพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกิจหลากหลายด้าน เช่น การผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ เครื่องชาร์จ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์และยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD ภายใต้ BYD Auto Co., Ltd. ครอบคลุมการตลาด การขายส่ง การส่งออก และบริการหลังการขาย
โดย BYD มีผู้ถือหุ้นรายสำคัญ ได้แก่ Hong Kong Securities Clearing (Nominees) Limited, Wang Chuanfu, Lu Xiangyang และ Rongjie Investment Holding Group Co., Ltd.
ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2025
-
กำไรสุทธิ: 15.511 พันล้านหยวน (ประมาณ 79,500 ล้านบาท)
-
รายได้รวม: 371.281 พันล้านหยวน (ประมาณ 1.91 ล้านล้านบาท)
-
งบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา: 30.9 พันล้านหยวน (ประมาณ 158,600 ล้านบาท)
-
รายได้จากตลาดต่างประเทศ: 135.358 พันล้านหยวน (ประมาณ 696,000 ล้านบาท)
ยอดขายและเป้าหมายประจำปี
ระหว่างเดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2025 ทาง BYD ทำยอดขายได้ 2.864 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2024 โดยทาง BYD ได้ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 2025 ให้ได้ที่ 5.5 ล้านคัน หมายความว่าในช่วงกันยายนถึงธันวาคม BYD ต้องทำยอดขายเฉลี่ยถึง 660,000 คันต่อเดือนเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้
มุมมองนักวิเคราะห์ต่อการเพิ่มทุนครั้งนี้
แม้ BYD ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการถึงเหตุผลการของการเพิ่มทุนจดทะเบียน แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์ เชื่อว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของแบรนด์ เพื่อสนับสนุนการลงทุนด้าน การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การขยายตลาด และการรุกตลาดต่างประเทศ
ผลลัพธ์ที่แท้จริงของการเพิ่มทุนครั้งนี้ยังต้องติดตามจากการดำเนินธุรกิจ และผลประกอบการในอนาคตของ BYD กันต่อไป
ที่มา : Carnewschina
