BYD เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด Song L GT SUV พลังงานไฟฟ้า 100% คันนได้ความสปอร์ตที่พัฒนาต่อจาก Song L EV โดยยังคงโครงสร้างหลักและขนาดเท่าเดิม แต่เพิ่มรายละเอียดการออกแบบที่ดุดันยิ่งขึ้น ทั้งในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)
BYD Song L GT ตัวสปอร์ตไฟฟ้าใหม่ มาครบทั้ง RWD และ AWD พร้อม LiDAR บนหลังคา
BYD Song L GT ยังคงรูปลักษณ์หลักจาก Song L EV แต่มีการปรับให้ดูสปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะกันชนหน้าที่เพิ่มแถบการตกแต่งสีดำ พร้อมแถบสีดำช่วงระหว่างไฟหน้าเพื่อเพิ่มความดุดัน อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Lidar บนหลังคา ที่คาดว่าจะมีเป็นมาตรฐานทั้งรุ่นด้วยครับ
ด้านท้ายเพิ่มโลโก้ “GT” บริเวณมุมล่างขวา เพื่อบ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ อีกทั้งยังสปอยเลอร์หลังแบบปรับไฟฟ้า และชุดไฟท้ายยังคงเหมือนรุ่น EV โดย BYD ระบุว่าสปอยเลอร์นี้สามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 0.88 kWh ต่อระยะทางได้ถึง 100 กม.
ขนาดตัวรถ
-
ยาว: 4,840 x กว้าง: 1,950 x สูง: 1,560 มม.
-
ฐานล้อยาว: 2,930 มม.
-
น้ำหนักตัวรถ: 2,380 กก.
ขนาดทั้งหมดนี้เหมือนกับ Song L EV ทุกประการ
ล้อและชุดเบรก
Song L GT จะมาพร้อมล้อขนาด 19 หรือ 20 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่น) พร้อมความสปอร์ตสุด ๆ ด้วยคาลิเปอร์เบรกสีแดง
ระบบขับเคลื่อน
รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) จะมีให้เลือกทั้งเวอร์ชันพละกำลังต่ำและสูง:
-
เวอร์ชันพลังต่ำ: มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 170 kW (228 แรงม้า) รุ่น TZ200XYS
(เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมที่ใช้มอเตอร์ 150 kW หรือ 201 แรงม้า) -
เวอร์ชันพลังสูง: มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 230 kW (308 แรงม้า) รุ่น TZ200XYT
(กำลังเท่าเดิมกับรุ่น Song L EV)
สำหรับรุ่น AWD:
-
มอเตอร์หน้า: เพิ่มกำลังจาก 150 kW เป็น 160 kW (215 แรงม้า)
-
มอเตอร์หลัง: คงกำลังที่ 230 kW (308 แรงม้า)
แบตเตอรี่และระยะทาง
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยความจุแบตเตอรี่ของรุ่น GT แต่หากอิงจาก Song L EV ที่ใช้แบตเตอรี่ Blade ความจุ:
-
71.8 kWh: วิ่งได้ระยะทางประมาณ 550 กม. (มาตรฐาน CLTC)
-
81.04 kWh: วิ่งได้ระยะทางประมาณ 662 กม. (มาตรฐาน CLTC)
ยังไม่เปิดเผยราคาจำหน่ายในขณะนี้ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงเดียวกับ Song L EV ที่เริ่มต้นราว 220,000 หยวน (ประมาณ 1,120,000 บาท)
BYD Song L GT เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรัก SUV ไฟฟ้าที่ต้องการดีไซน์และพละกำลังแบบสปอร์ต อีกทั้งได้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ God’s Eye พร้อมรองรับระบบ lidar ทั้งในเมืองและทางด่วน การเปิดตัวครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำความตั้งใจของ BYD ในการบุกตลาด EV ระดับพรีเมียมอย่างจริงจัง
ส่วนตัวผมชอบดีไซน์ของ BYD Song L ทำออกได้ได้สปอร์ตแต่ยังมีความเป็น BYD และเอกลักษณ์ความเป็นจีนได้ลงตัว คำถามคือจะเข้าไทยหรือไม่? เพราะไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้า BYD ถือว่าแตก Segment มาไม่น้อยเลยครับ

BYD Song L EV รุ่น 2025
ที่มา : Carnewschina