ผลสำรวจผู้ซื้อรถชาวจีนล่าสุด ชี้ให้เห็นว่า ความสนใจในรถยนต์แบรนด์ Tesla ลดลง และแบรนด์รถยนต์ในประเทศอย่าง BYD และ Xiaomi กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่าความได้เปรียบทางเทคโนโลยีของ Tesla อาจไม่ได้ผูกขาดในตลาดจีนอีกต่อไป
ผลสำรวจ UBS ชี้ BYD และ Xiaomi แซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง ของผู้ซื้อรถชาวจีน
รายงานล่าสุดระบุว่า ผู้บริโภคชาวจีนกำลังเปลี่ยนใจ และมองว่า Tesla ไม่ได้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอีกต่อไปแล้ว จากผลสำรวจของ UBS พบว่า มีผู้บริโภคชาวจีนเพียง 14% เท่านั้นที่ยังคงเลือก Tesla เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งในใจ ซึ่งลดลงจาก 18% ในปีก่อนหน้า และต่ำกว่าช่วงที่เคยได้รับความนิยมสูงสุดถึง 30% ในปี 2020 อย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ค่ายรถยนต์ในประเทศอย่าง BYD และ Xiaomi กลับได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้น UBS ระบุว่าปัจจัยหนุนมาจากผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และราคาที่ตอบโจทย์ตลาดได้ดีกว่า
ความนิยมขอ Tesla ที่ลดลงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในจีนเท่านั้น เนื่องจากในทั่วโลก จำนวนผู้บริโภคที่มองว่า Tesla เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าตัวเลือกอันดับแรกก็ลดลงจาก 22% เหลือเพียง 18% ในสหรัฐอเมริกา ความนิยมลดลงเหลือ 29% จากเดิม 38% ส่วนในยุโรป ความนิยมของ Tesla ลดลงเหลือเพียง 15% และถูก Audi กับ BMW แซงหน้าไปแล้ว
สาเหตุของความนิยมที่ลดลงนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค
- ในจีน Tesla ไม่ถูกมองว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอีกต่อไป
- ในยุโรป การแสดงบทบาททางการเมืองของ Elon Musk อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
- ในสหรัฐฯ ปัญหามาจากรุ่นรถยนต์ที่มีให้เลือกน้อยเกินไป และเรื่องราคาที่ยังเข้าถึงยาก
การขยายธุรกิจของ Xiaomi จากสินค้าเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคมาสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า กำลังไปได้สวย โดยรถยนต์ซีดานรุ่น Xiaomi SU7 ขายได้ถึง 26,223 คันในเดือนเมษายน แซงหน้ายอดขายของ Tesla Model 3 ในเดือนเดียวกัน
ส่วนรถ SUV รุ่น Xiaomi YU7 ที่เพิ่งเปิดตัว ก็ตั้งเป้าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model Y โดยมาพร้อมคุณสมบัติเด่นมากมาย เช่น ระบบช่วยขับขี่ในเมือง และหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะตั้งราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้
ขณะที่ BYD ยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ในเดือนเมษายน BYD มียอดขายแซงหน้า Tesla ในยุโรปเป็นครั้งแรก และยังคงเป็นผู้นำตลาดในจีนอย่างแข็งแกร่ง ยอดขายของ Tesla ในจีนเองลดลงถึง 60% จากเดือนมีนาคม – เมษายน เหลือเพียง 28,731 คัน
ความได้เปรียบทางเทคโนโลยี ไม่ได้ผูกขาดอีกต่อไป
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนกำลังได้เปรียบ Tesla ทั้งในด้านคุณสมบัติและราคา รถซีดานรุ่นใหม่ของ Xpeng ก็มาพร้อมระบบขับขี่อัจฉริยะ ในราคาเพียงครึ่งหนึ่งของ Model 3
นอกจากนี้ Xiaomi และค่ายรถยนต์อื่น ๆ ก็สามารถส่งมอบรถยนต์ที่มีระบบ NOA (ระบบนำทางอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ในเมือง) ในระดับราคาประมาณ 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) ในทางตรงกันข้าม ระบบ FSD (ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ) ของ Tesla ยังคงมีราคาสูง และยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควรในประเทศจีน
เมื่อการแข่งขันในประเทศจีนรุนแรงขึ้น ทำให้ Tesla ต้องเผชิญกับแรงกดดันให้ต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านราคา คุณสมบัติตัวรถ หรือทั้งสองอย่าง ในขณะที่ BYD และ Xiaomi กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับความคาดหวังของผู้บริโภค และผู้ซื้อชาวจีนก็ตอบสนองด้วยการหันมาให้ความสนใจแบรนด์ในประเทศมากขึ้น
ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ปี 2025 Tesla ขายรถยนต์ในจีนได้ 163,338 คัน ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในช่วงเวลาเดียวกัน BYD ขายรถยนต์ในจีนได้ 886,240 คัน เพิ่มขึ้น 12.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วน Xiaomi ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 104,454 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1,379.9% จากปีก่อนหน้า ซึ่ง Xiaomi เพิ่งเริ่มต้นการส่งมอบรถยนต์ได้ในเดือนเมษายน 2024 เท่านั้น
ที่มา carnewschina