Changan Deepal S7 เป็นรถ SUV ขนาดกลาง เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว มีขุมพลังให้เลือกทั้ง ขุมพลังไฟฟ้า 100% (EV) และ Extended Range Electric Vehicle (EREV) โดยมีราคาระหว่าง 149,900 – 202,900 หยวน (ประมาณ 7.31 – 9.97 แสนบาท) ซึ่งมีราคาที่ต่ำกว่าเปิดขายล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
Changan Deepal S7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว และเริ่มส่งมอบในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ในประเทศจีน
วันที่ 25 มิถุนายน 2023 Deepal เปิดตัว SUV รุ่นแรก ด้วยรุ่น S7 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน และจะเริ่มส่งมอบในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ Deepal S7 มาพร้อม 3 ขุมพลัง ได้แก่ รุ่นไฟฟ้า 100% (EV), รุ่น Extended Range Electric Vehicle (EREV) และรุ่นไฮโดรเจน ในรุ่นพลังงาน EV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย โดยมีราคาระหว่าง 189,900 – 202,900 หยวน (ประมาณ 9.26 – 9.97 แสนบาท) และส่วนรุ่น EREV มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย โดยมีราคาระหว่าง 149,900 – 169,900 หยวน (ประมาณ 7.31 – 8.29 แสนบาท) แต่รุ่นพลังงานไฮโดรเจน จะเปิดตัวในอนาคต
Deepal S7 เป็นรุ่นที่ 2 ของทางแบรนด์ หลังจากรถซีดาน SL03 เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดย Deepal S7 เป็นรถ SUV ครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่ออกแบบโดย Bertrand Bach ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบยานยนต์ และทำงานเป็นหัวหน้าผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบระดับโลกที่ Changan อีกด้วย รุ่นดังกล่าวตั้งอยู่บนแพลตฟอร์ม EPA1 ของ Changan และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.258
ดีไซน์ภายนอก
ภายนอกของ Deepal S7 ไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์มากนัก แต่ยังเป็นรถที่ค่อนข้างน่าดึงดูด ด้วยไฟหน้าแบบบางดีไซน์โฉบเฉี่ยว กันชนหน้าแบบสปอร์ต รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่มีเส้นขอบกระจกที่ต่ำ กระจกขอบประตูแบบไร้กรอบ (frameless) มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับตัวรถ ขอบพลาสติกด้านข้างตัวรถที่มันวาว ชุดไฟท้ายชิ้นเดียว ขนาดล้อ 21 นิ้ว และมีพื้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่
- มิติตัวรถของ Deepal S7 (ยาว x กว้าง x สูง) : 4,750 x 1,930 x 1,625 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,900 มม.
ขุมพลัง
รุ่นไฟฟ้า 100% (EV) มี 2 รุ่นย่อย
- มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 190 kW (258 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ NMC ความจุ 66.8 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 520 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
- มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 160 kW (218 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ NMC ความจุ 79.97 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองการบริโภคพลังงาน 14.2 kWh/100 กม. และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 620 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
รุ่น Extended Range Electric Vehicle (EREV)
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 175 kW (238 แรงม้า) แรงบิด 320 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 70 kW (95 แรงม้า) มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ความจุ 18.99 kWh และ 31.73 kWh วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 121 กม. และ 200 กม. ตามมาตรฐาน CLTC ทำให้มีระยะทางรวมกับน้ำมันเต็มถัง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 1,040 กม. และ 1,120 กม. ภายใต้ระบบ Plug-in hybrid ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 7.6 วินาที อัตราสิ้นเปลืองการบริโภคพลังงาน 14.3 – 14.5 kWh/100 กม.
รุ่นไฮโดรเจน : ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียด จะเปิดตัวในอนาคต
ดีไซน์ภายใน
ภายในมีหน้าจอสัมผัส infotainment ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ที่สามารถปรับองศาหน้าจอซ้าย-ขวา ได้ 15 องศา และหน้าจอ AR-HUD โดยระบบปฏิบัติการทั้งหมดทำงานภายใต้ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 นอกจากนี้ยังมีหน้าจอฝั่งผู้โดยสารขนาด 12 นิ้ว ถูกซ่อนไว้ที่บังแดด และมาพร้อมซอฟต์แวร์ช่วยเหลือการขับขี่ NID 3.0 หลังคากระจก Panoramic ขนาด 1.9 ตารางเมตร
ระบบความปลอดภัย
รองรับฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Autonomous Lane) และระบบควบคุมให้รถอยู่กึ่งกลางเลน (Lane Centering)
ราคา
รุ่นไฟฟ้า 100% (EV)
- รุ่น 520 Max Pure Electric (66.8 kWh) ราคา 189,900 หยวน (ประมาณ 9.26 แสนบาท)
- รุ่น 620 Max Pure Electric (79.97 kWh) ราคา 202,900 หยวน (ประมาณ 9.97 แสนบาท)
รุ่น Extended Range Electric Vehicle (EREV)
- รุ่น 121 Pro ราคา 149,900 หยวน (ประมาณ 7.31 แสนบาท)
- รุ่น 121 Max ราคา 159,900 หยวน (ประมาณ 7.86 แสนบาท)
- รุ่น 200 Max ราคา 169,900 หยวน (ประมาณ 8.29 แสนบาท)
ที่มา – CarNewsChina