ใน

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่งทะลุ 7.2 ล้านคันในปี 2568 จีนทุบสถิติใหม่!

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยมียอดขายถึง 1.6 ล้านคัน อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดของ Rho Motion บริษัทวิจัยด้านรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ยอดขายรวมของปีนี้อยู่ที่ 7.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่งทะลุ 7.2 ล้านคันในปี 2568 จีนทุบสถิติใหม่!

ผู้ชนะที่โดดเด่นที่สุดคือ ประเทศจีน ซึ่งสร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว เพิ่มขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 10% จากเดือนเมษายน

ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกก็มียอดขายเติบโตขึ้นเช่นกัน แต่ทวีปอเมริกาเหนือกลับตามหลังอยู่ไกล โดยมีสาเหตุหลักมาจากการตัดลดเงินสนับสนุนในประเทศแคนาดา

Charles Lester จากบริษัทวิจัยด้านรถยนต์ไฟฟ้า Rho Motion ได้ให้รายละเอียดว่า “ประเด็นสำคัญของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือนนี้คือความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างการเติบโตของตลาดจีนที่มียอดขายถึง 1 ล้านคันในเดือนพฤษภาคม กับตลาดในอเมริกาเหนือที่กำลังชะลอตัว”

สรุปยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี – เดือนพฤษภาคม 2568

  • ทั่วโลก: 7.2 ล้านคัน (เติบโต 28%)
  • จีน: 4.4 ล้านคัน (เติบโต 33%)
  • ยุโรป: 1.6 ล้านคัน (เติบโต 27%)
  • อเมริกาเหนือ: 0.7 ล้านคัน (เติบโต 3%)
  • ภูมิภาคอื่น ๆ: 0.6 ล้านคัน (เติบโต 36%)

การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในแต่ละภูมิภาค

ยุโรปยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยได้รับแรงหนุนจากสเปนและอิตาลี

ยอดขายในยุโรปตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 27% โดยมียอดขายรวม 1.6 ล้านคันในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ประเทศอย่างเยอรมนี (เติบโต 45%) และสหราชอาณาจักร (เติบโต 32%) เป็นผู้นำในการเติบโต

แต่ประเทศในแถบยุโรปใต้กำลังเร่งเครื่องแซงหน้า โดยสเปนมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 72% ในปีนี้ และอิตาลีก็ตามมาไม่ห่างที่ 58%

ล่าสุด เยอรมนีได้ออกมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าชุดใหม่ ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากรถยนต์ขององค์กรมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ในเยอรมนี การลดหย่อนภาษีและข้อเสนอการคิดค่าเสื่อมราคาแบบพิเศษนี้จึงอาจช่วยกระตุ้นยอดขายให้พุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อเมริกาเหนือชะลอตัว

สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก มียอดขายเติบโตเพียง 3% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่แคนาดาระงับโครงการเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ยอดขายลดลงอย่างรวดเร็วถึง 20%

Tesla Cybertruck sighting next to Rivian R1T shows size comparison

ในขณะที่สหรัฐอเมริกายังคงเติบโตได้ 4% โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลกลางที่จะยังคงมีผลไปจนถึงสิ้นปี แต่สิทธิ์ลดหย่อนนี้จะเริ่มลดลงในปี 2569 และจะหมดไปภายในปี 2570 หากพรรครีพับลิกันไม่ยกเลิกไปเสียก่อน จึงคาดว่ายอดขายจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี เนื่องจากผู้ซื้อจะรีบใช้สิทธิ์ก่อนที่จะหมดไป

จีนยังคงครองตลาด

จีนยังคงเป็นมหาอำนาจด้านรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีนกลายเป็นประเทศแรกของปีนี้ที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทะลุ 1 ล้านคันในเดือนเดียว โดยเคยทำสถิตินี้ได้ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2567 และครั้งนี้ก็ทำได้อีกครั้งก่อนจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน

ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนก็ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงเช่นกัน BYD กำลังขยายตลาดในยุโรปทั้งรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นใหม่ ๆ โดยล่าสุดได้เปิดตัว Dolphin Surf (หรือ Seagull ในจีน) ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดในยุโรป ด้วยราคาประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 915,000 บาท) และรถรุ่นนี้ไม่โดนกำแพงภาษีใหม่ของสหภาพยุโรปที่เก็บจากรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

ที่มา electrek

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.