แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ Honda N-ONE e ใหม่นี้ก็มาพร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะเป็น “เพื่อนร่วมทางในชีวิตประจำวัน” ด้วยดีไซน์ภายในที่ยืดหยุ่น ระยะทางวิ่งที่เพียงพอต่อการเดินทางในเมือง และยังสามารถจ่ายไฟให้บ้านได้อีกด้วย
เผยโฉม Honda N-ONE e รถยนต์ Kei Car ไฟฟ้าคันเล็ก ฟังก์ชันแน่น จ่ายไฟบ้านได้
Honda N-ONE e เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Kei car รุ่นที่ 2 ของ Honda โดยตามหลัง N-VAN e ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคม 2024 แม้ N-VAN e จะเน้นใช้งานเชิงพาณิชย์เป็นหลัก แต่ N-ONE e ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถสำหรับขับขี่ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะ
ดีไซน์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน
Honda กล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ “พัฒนาขึ้นเพื่อแสวงหารถยนต์ไฟฟ้าในอุดมคติ” ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ การจัดวางภายในที่กว้างขวาง และระยะทางวิ่งที่เพียงพอสำหรับการเดินทางในแต่ละวัน N-ONE e เป็นรุ่นไฟฟ้าของ Honda N-ONE เคคาร์สไตล์เรโทรที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2012
ภายนอกของ N-ONE e ดูคล้ายกับรุ่นที่ใช้น้ำมัน แต่รุ่นไฟฟ้าใหม่นี้มีดีไซน์ด้านหน้าแบบใหม่พร้อมกระจังหน้าสีดำเรียบ และพอร์ตชาร์จเพิ่มเติม 2 ช่องที่ด้านหน้า Honda ยังเผยว่ารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กคันนี้ เพิ่มความสะอาดตาที่มีเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้นที่ทำได้ ด้วยขอบที่เรียบลื่นและกันชนดีไซน์โค้งมนใหม่
ส่วนภายในมีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดจากรุ่นที่น้ำมัน เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากที่สุด มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ และปุ่มเกียร์ นอกจากนี้ยังมีปุ่มควบคุมจำนวนมากสำหรับฟังก์ชันควบคุมอุณหภูมิและอื่น ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน Honda จึงออกแบบให้เรียบง่ายด้วยส่วนของการจัดเก็บและเบาะนั่งที่ปรับเปลี่ยนได้ยืดหยุ่น
สมรรถนะและคุณสมบัติพิเศษ
แม้ Honda จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง แต่ก็ระบุว่า N-ONE e มีระยะทางวิ่งมากกว่า 270 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) มีแนวโน้มว่าจะใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ N-VAN e ซึ่งบ่งชี้ถึงระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเดี่ยวที่มีกำลังสูงสุด 63 แรงม้า ซึ่งเป็นขีดจำกัดสำหรับเคคาร์ในญี่ปุ่น
ที่น่าสนใจคือ Honda N-ONE e มาพร้อมความสามารถแบบ Vehicle-to-Home (V2H) ทำให้สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ในระหว่างภัยธรรมชาติหรือไฟฟ้าดับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, แคมป์ปิ้ง, สถานที่ทำงาน และอื่น ๆ ได้ในขณะเดินทาง
Honda จะเปิดให้จองล่วงหน้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ในวันที่ 31 สิงหาคม และมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเปิดตัว Super EV ของ Honda ในตลาดยุโรป
ที่มา electrek