Leapmotor ได้เริ่มเปิดให้จองรถยนต์รุ่น Lafa 5 ในประเทศจีนแล้ว โดยเป็นการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทรงแฮทช์แบ็ก เพื่อแข่งขันกับโมเดลอื่นๆ เช่น Volkswagen ID.3, SAIC MG4, BYD Dolphin และ Firefly EV จาก Nio Inc
ศึก EV แฮทช์แบ็กเดือด! Leapmotor ส่ง Lafa 5 ชน BYD Dolphin และ Nio Firefly เริ่มจองในจีน 5.4 แสนบาท
Lafa 5 เป็นรถ EV ขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีสไตล์การขับขี่แบบสปอร์ต ซึ่งได้รับการปรับแต่งโดยทีมงานจากยุโรปของ Stellantis โดย Leapmotor ตั้งเป้าหมายให้รถรุ่นนี้กลายเป็น “รถในฝัน” (Dream Car) สำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก

รถรุ่นนี้สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม LEAP 3.5 Architecture B ของ Leapmotor ตัวรถมีความยาว 4,430 มม. กว้าง 1,880 มม. และสูง 1,520 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,735 มม.
มิติเหล่านี้ถือว่าใหญ่กว่าคู่แข่งอย่าง Firefly EV ซึ่งมีความยาว 4,003 มม. กว้าง 1,781 มม. สูง 1,557 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,615 มม.

Lafa 5 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) มีให้เลือก 2 ขนาดความจุ คือ 56.2 kWh และ 67.1 kWh ซึ่งสามารถวิ่งได้ระยะทางตามมาตรฐาน CLTC ที่ 515 หรือ 605 กิโลเมตร
รถรุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จจาก 30% ไปถึง 80% ได้ภายใน 18 หรือ 19 นาที

Lafa 5 จะมีให้เลือกเฉพาะการตั้งค่าแบบมอเตอร์เดี่ยวเท่านั้น ในรุ่นเริ่มต้นจะใช้มอเตอร์ที่มีกำลังสูงสุด 132 kW สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ใน 8.7 วินาที
ส่วนอีก 4 รุ่นที่เหลือ จะมาพร้อมกับมอเตอร์ที่ให้กำลังสูงสุด 160 kW ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ได้ใน 6.5 วินาที
ห้องโดยสารของรถจะใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155P หรือ 8295P ซึ่งชิป 8295P ถือเป็นชิปกระแสหลักที่นิยมใช้ในรถ EV ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบัน

Lafa 5 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ Leapmotor Pilot และในรุ่น Max ทั้งสองรุ่น จะมีการติดตั้ง LiDAR (เซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพแวดล้อม) เพิ่มเข้ามาด้วย
ในช่วงเปิดจอง Lafa 5 มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่
- 515 Plus 105,800 หยวน (ประมาณ 540,000 บาท)
- 515 Pro 115,800 605 Max (ประมาณ 591,000 บาท)
- 515 Max 125,800 605 Max(ประมาณ 642,000 บาท)
- 605 Pro 121,800 605 Max(ประมาณ 621,000 บาท)
- 605 Max 131,800 605 Max (ประมาณ 672,000 บาท)
Lafa 5 มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าราคาในวันเปิดตัวจริงจะต่ำกว่านี้ โดยอาจลดราคาในรุ่นเริ่มต้นลงเหลือประมาณ 100,000 หยวน (ประมาณ 510,000 บาท) ส่วนรุ่นท็อปสเปคที่ชื่อว่า Ultra จะเปิดตัวในปี 2026

สำหรับคู่แข่งอย่าง Firefly EV ของ Nio มี 2 รุ่นมาตรฐาน ปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 119,800 หยวน (ประมาณ 611,000 บาท) และ 125,800 หยวน (ประมาณ 642,000 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่รวมแบตเตอรี่แล้ว
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Leapmotor มียอดส่งมอบรถยนต์ 70,289 คัน ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ผู้ผลิตรถ EV จากจีนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Stellantis รายนี้ มียอดส่งมอบรถยนต์รวม 465,805 คัน เพิ่มขึ้น 120.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะส่งมอบรถยนต์ให้ได้ระหว่าง 580,000 ถึง 650,000 คันในปี 2025 และตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านคันในปีถัดไป
นอกจากนี้ Leapmotor เตรียมเปิดตัว A10 ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกในตระกูล A-series ที่งาน Guangzhou auto show ในปลายเดือนนี้ด้วย
ที่มา cnevpost
