Mercedes Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ G580 G-Class EV 2025 รูปลักษณ์คลาสสิคในเวอร์ชันไฟฟ้า ขับขี่สไตล์ออฟโรด มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระ 4 ตัว ทำให้การขับขี่บนเส้นทางออฟโรดสนุกมากขึ้น
Mercedes Benz เปิดตัว G580 G-Class EV 2025 ใหม่ พร้อมมอเตอร์ 4 ตัว เทคโนโลยี EQ
G580 G-Class EV 2025 ใหม่ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบออฟโรด มาพร้อมมอเตอร์อิสระ 4 ตัว สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 0-60 ไมล์/ชม. ภายใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 112 ไมล์/ชม. (180 กม./ชม.) ให้แรงบิดรวม 579 แรงม้า แรงบิด 879 ปอนด์-ฟุต มอเตอร์แต่ละตัวมีระบบเกียร์ 2 สปีด ทำให้สามารถเปลี่ยนไปยังเกียร์ต่ำที่มีการลดเกียร์ 2:1 สำหรับการออฟโรด
และด้วยการมีมอเตอร์ 4 ตัวนี้ ยังทำให้ G580 มีลูกเล่นว่า G-Turn [ชมวิดีโอ] หรือที่เรียกกันว่า Tank Turn ทำให้รถสามารถหมุนได้ 2 รอบ โดยหมุนล้อด้านซ้ายและด้านขวาของรถในไปทิศทางตรงกันข้ามพร้อมกัน
นอกจากนี้ G580 ยังมีฟีเจอร์ G-Steering โดยเปิดใช้งานการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อ ทำให้รถสามารถเลี้ยวได้ง่ายในที่แคบได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ด้วยความสามารถของการขับขี่แบบออฟโรด ยังทำให้ G580 สามารถไต่ระดับได้สูงสุดถึง 100% (45°) และสามารถยึดเกาะได้อย่างมั่นคงบนทางลาดเอียงด้านข้างถึง 35° ลุยน้ำได้ลึก 33.5 นิ้ว ซึ่งความสูงใต้ท้องรถของ G580 อยู่ที่ 9.8 นิ้ว ช่วงล่างแบบปีกนกคู่อิสระที่ด้านหน้า และช่วงล่าง Solid de Dion ที่ด้านหลัง
นอกจากนี้ G580 ยังมาพร้อมคุณสมบัติ Transparent Hood ที่ใช้กล้องแสดงสิ่งที่อยู่ด้านหน้าและใต้ตัวรถบนจอแสดงผลภายใน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของการขับขี่แบบออฟโรด สำหรับเส้นทางบนภูมเขาหรือเส้นทางที่ยากลำบาก ก็สามารถเห็นได้ว่ามีอะไรอยู่ด้านหน้าและด้านล่างบ้าง
ภายนอกของ G580 เป็นทรงกล่องเหมือนกับ G-Class เวอร์ชันน้ำมัน ไม่ได้เน้นรูปทรงโค้งมนเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่ก็มีการปรับด้านอากาศพลศาสตร์เล็กน้อย เช่น ปรับเสา A-Pillar และปรับแถบเหนือกระจกหน้ารถทำให้ขอบด้านหน้าและหลังคาเรียบมากขึ้น ส่วนกระจังหน้ามีตัวเลือกแบบคลาสสิคและแบบเวอร์ชันไฟฟ้าที่มีไฟล้อมรอบ ท้ายรถมียางอะไหล่ติดตั้งอยู่ และมีช่องสำหรับเก็บสายชาร์จหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย
ถึงแม้ว่าภายนอกจะออกแบบให้ดูดุดัน แต่ด้วยความที่เป็น Mercedes Benz ทำให้ภายในยังคงความหรูหรา โดยเฉพาะในรุ่นใหม่มีความหรูหราเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรุ่นตกแต่ง Edition One
สำหรับแบตเตอรี่ของ G580 มีขนาด 116kWh แต่บริษัทยังไม่ได้เผยระยะทางการขับขี่สูงสุดให้ทราบ ส่วนการชาร์จ DC สามารถจาก 10%-80% ในเวลา 32 นาที อัตราการชาร์จสูงสุด 200kW ชาร์จ AC ที่ 11kW
นอกจากนี้ G580 ยังมาพร้อมการตั้งค่า Regenerative Braking ใหม่ 5 แบบ รวมถึงการตั้งค่า D-auto ของ Mecedes ที่รถสามารถตัดสินใจการเบรกตามสภาพจราจรอย่างชาญฉลาด และเป็นไปได้ว่าจะมีฟีเจอร์ One-Pedal
สำหรับราคาของ G580 ยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ Mercedes เผยว่าน่าจะใกล้เคียงกับ G63 ที่มีราคาเริ่มต้นประมาณ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.6 ล้านบาท)
ที่มา electrek