Mercedes-Benz ก้าวเข้าสู่ไฟฟ้ายุคใหม่ด้วยการเปิดตัว GLC with EQ Technology เป็นรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบครั้งแรก รถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง พร้อมชนคู่แข่งอย่าง BMW iX3, Audi Q6 และ Porsche Macan
Mercedes-Benz GLC EV 2026 ไฟฟ้า 100% สุดหรู ช่วงล่าง S-Class ระบบ AI จาก Microsoft และ Google
Mercedes-Benz GLC ถือเป็นหนึ่งในรุ่นหลักของค่ายที่ทำตลาดในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2015 และเป็น SUV หรูที่ทำยอดขายสูงต่อเนื่อง โดยถูกวางให้เป็นคู่แข่งสำคัญ BMW iX3
สมรรถนะ: พลังและประสิทธิภาพ
GLC with EQ Technology มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 94.0 kWh พละกำลังสูงสุด 483 แรงม้า ซึ่งมากกว่า BMW iX3 20 ตัว (ที่ 463 แรงม้า) และยังรองรับการลากจูงได้สูงถึงประมาณ 2,400 กิโลกรัม หากเลือกออปชันตะขอลากจูง
สถาปัตยกรรมแรงดัน 800V วิ่งได้ไกลถึง 713 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จสูงสุด 330 kW หากชาร์จ 10 นาที เพิ่มระยะวิ่งได้ที่ 303 กม.
GLC ยังใช้ระบบกันสะเทือน Airmatic ที่ยกมาจาก S-Class พร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Car-to-X ที่สามารถปรับตัวล่วงหน้าตามสภาพถนน เช่น ตรวจจับหลุมแล้วปรับแดมป์เปอร์ให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความสูงอัตโนมัติที่ใช้ข้อมูลจาก Google Maps เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง รวมถึงระบบเลี้ยวล้อหลังที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว โดยสามารถหักล้อหลังในทิศตรงข้ามได้ถึง 4.5 องศาที่ความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม.
ด้านความปลอดภัย จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีใหม่ เช่น MB.Drive ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชันขับขี่กึ่งอัตโนมัติ และ MB.Parking Assist ที่ช่วยจอดรถอัตโนมัติ
ดีไซน์: จุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าใหม่
GLC รุ่นไฟฟ้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ติดตั้งจุดไฟส่องสว่างถึง 942 ดวง พร้อมโลโก้สามแฉกขนาดใหญ่ตรงกลาง ไฟหน้า LED มาเป็นมาตรฐาน สามารถอัปเกรดเป็น Digital Light ไฟ DRL ดีไซน์ดาว 3 แฉก ส่วนไฟท้ายออกแบบพร้อมมีวงแหวน LED และดาวให้เข้ากับด้านหน้า
โครงสร้างยังคงสัดส่วน SUV ขนาดกลาง ภายในมีพื้นที่วางขาและเหนือศีรษะมากกว่า GLC ปัจจุบันเนื่องจากฐานล้อที่ยาวขึ้น 84 มม. พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 570 ลิตร พร้อมกับ Frunk หน้ารถ 128 ลิตร
ห้องโดยสารและเทคโนโลยี
ไฮไลต์หลักคือจอ Hyperscreen ขนาดมหึมา 39.1 นิ้ว พาดยาวเต็มพื้นที่แดชบอร์ด มาพร้อม LED กว่า 1,000 ดวง และสามารถปรับแต่งได้ทั้งฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า ทำงานบนระบบ MBUX รุ่นล่าสุดที่พัฒนาให้รองรับ AI จาก Microsoft และ Google
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่ได้รับการรับรองจาก The Vegan Society ลูกค้าสามารถเลือกหนังแท้ Soft Torino และ Nappa ได้ และจะได้มาใน AMG Line Sport Seat ด้วยเช่นกัน
แม้จะเน้นความล้ำสมัย แต่ GLC ยังคงมีปุ่มควบคุมจริงบนคอนโซลกลาง พวงมาลัย และแผงประตู เพื่อให้ใช้งานสะดวกขึ้น อันนี้จัดว่าดีครับ
ภายในของรุ่น AMG
การวางจำหน่ายและราคา
Mercedes-Benz GLC with EQ Technology จะเริ่มวางขายในสหรัฐฯ ช่วงครึ่งหลังของปี 2026 โดยราคายังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์สันดาปที่มีราคาเริ่มต้น 50,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,870,000 บาท)
ที่มา : Motor1