ใน , , , ,

โลโก้สำนักงานใหญ่ NETA ที่เซี่ยงไฮ้ถูกเอาออก! ท่ามกลางกระแสข่าวผู้ก่อตั้งอาจถูกปลด

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนได้เผยภาพโลโก้ของบริษัท NETA Auto ถูกถอดออกจากสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ในช่วงกลางดึก โดยมีเจ้าหน้าที่ใช้เชือก และเครื่องมือขูดเอาโลโก้ออก เหลือไว้เพียงรอยจาง ๆ บนผนังเท่านั้น

โลโก้สำนักงานใหญ่ NETA ที่เซี่ยงไฮ้ถูกเอาออก! ท่ามกลางกระแสข่าวผู้ก่อตั้งอาจถูกปลด

ทาง NETA ยืนยันว่าการถอดโลโก้นั้นเกิดจากสัญญาเช่าสำนักงานที่หมดอายุเมื่อเดือนก่อน และขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมย้ายที่ทำการใหม่ แม้ยังไม่เปิดเผยสถานที่แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ

ผู้นำอย่าง Fang Yunzhou อาจถูกปลดจากตำแหน่ง

NETA Auto เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตเร็วที่สุดของจีน (อดีตแบรนด์ “ม้ามืด”) ตอนนี้กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อแหล่งข่าวหลายแห่งระบุว่า ผู้ถือหุ้นของ Hozon New Energy Automobile (บริษัทแม่ของ NETA) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจเตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อถอด Fang Yunzhou ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอออกจากตำแหน่ง

Fang ก่อตั้ง Hozon ในปี 2014 ได้เป็นตัวแทนทางกฎหมายของบริษัทตั้งแต่นั้นมา เขาเคยถูกมองว่าเป็นผู้นำเชิงนวัตกรรม แต่ในขณะนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากผู้ถือหุ้นที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร

ขาดทุนสะสมพุ่งทะลุ 18.3 พันล้านหยวน (ประมาณ 91,400 ล้านบาท)

การวิพากษ์วิจารณ์ Fang มาจากปัญหาทางการเงินที่สะสมมานาน

  • ขาดทุนสะสมเกิน 18.3 พันล้านหยวน (ประมาณ 91,400 ล้านบาท)

  • อัตราหนี้สินพุ่งสูงถึง 217%

  • ซัพพลายเชนล่ม, โรงงานหยุดผลิต และหนี้ค้างจ่ายจำนวนมาก

แหล่งข่าวยังระบุว่าผู้ถือหุ้นรายหนึ่งที่เป็นรัฐวิสาหกิจได้เสนอให้ Hozon ยื่นคำร้องขอล้มละลาย และเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นต่อผู้นำปัจจุบันได้ลดลงอย่างมาก

โมเดลธุรกิจแบบผสม “รัฐ-เอกชน” กลายเป็นปัญหา

หนึ่งในเอกลักษณ์ของ NETA คือโครงสร้างการถือหุ้นแบบ “รัฐ-เอกชนผสม” ซึ่งในช่วงแรกให้ความได้เปรียบด้านเงินทุน และนโยบายสนับสนุน แต่เมื่อเวลาผ่านไปโครงสร้างนี้กลับกลายเป็นจุดขัดแย้ง โดยรัฐวิสาหกิจเน้นเรื่องการควบคุมความเสี่ยง เสถียรภาพระยะยาว ขณะที่ Fang มุ่งเน้นการขยายตัวเชิงรุก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งเป้าทำกำไรภายในปี 2026

หนี้ค้างจ่ายกว่า 6 พันล้านหยวน (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) กระทบถึง CATL

แหล่งข่าวภายในระบุว่า NET A ค้างจ่ายหนี้กับซัพพลายเออร์รวมกว่า 6 พันล้านหยวน (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) ส่งผลให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ CATL หยุดส่งมอบสินค้า การผลิตในประเทศจีนจึงต้องหยุดชะงัก และคำสั่งซื้อต่างประเทศต้องถูกเลื่อนออกไป แม้ว่า NETA จะได้วงเงินสินเชื่อในไทย 2.15 พันล้านหยวน (ประมาณ 10,730 ล้านบาท) ไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม

ยอดขายรถ NETA ที่ตกฮวบ

  • ปี 2022: ยอดขายสูงสุด 152,000 คัน

  • ปี 2023: ลดลงเหลือ 127,500 คัน

  • ปี 2024 (จนถึงปัจจุบัน): ลดลงเกือบครึ่ง เหลือเพียง 64,549 คัน

มีรายงานการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก การปิดโชว์รูม และการประท้วงของซัพพลายเออร์ ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ยิ่งตกต่ำลง แม้บริษัทจะพยายามลดต้นทุนอย่างหนัก เช่น ปรับสิทธิ์หุ้นพนักงานและลดจำนวนสายธุรกิจ ก็ไม่สามารถต้านสถานการณ์นี้ได้

เป้าหมายที่ยังไปไม่ถึง เข้าตลาดหลักทรัพย์ กำไรขั้นต้น และขยายทั่วโลก

หลังจาก Zhang Yong อดีตซีอีโอ ลาออกปลายปี 2024 Fang กลับมารับตำแหน่งซีอีโออีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าหมายใหญ่

  • เข้าตลาดหลักทรัพย์

  • ขยายธุรกิจทั่วโลก

  • ทำกำไรขั้นต้นภายในปี 2025

แต่ไม่มีเป้าหมายใดสำเร็จ อีกทั้งปัญหาสภาพคล่องของบริษัทก็เลวร้ายลง ข้อตกลงแปลงหนี้เป็นทุน (Debt-to-equity swap) ที่วางแผนไว้เพื่อชำระหนี้ซัพพลายเออร์ก็ล้มเหลวเช่นกัน

อนาคตที่ไม่แน่นอน Fang อาจสูญเสียบริษัทที่สร้างมากับมือ

ขณะนี้ผู้ถือหุ้นภาครัฐกำลังผลักดันให้ปลด Fang ออกจากตำแหน่ง และพิจารณาการล้มละลายของบริษัท หากการลงคะแนนเสียงผ่านไปได้ Fang จะต้องสูญเสียการควบคุม NETA ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งและขับเคลื่อนมากับมือ ถือเป็นการจบตำนานที่น่าเศร้าของผู้บุกเบิกวงการรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของจีนในที่สุดครับ

ที่มา : Carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.