ใน , ,

Honda เปิดจำหน่าย Honda HR-V e:HEV ใหม่ ด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเริ่มต้น 899,000 บาท

Honda ประเทศไทย ประกาศราคาและเปิดจำหน่าย Honda HR-V e:HEV ใหม่ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ อย่างเป็นทางการ พร้อมราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 899,000 บาท ในรุ่น e:HEV E จำนวนจำกัด เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย.  – 31 ธ.ค. 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 2567 – 31 ม.ค. 2568

Honda เปิดจำหน่าย Honda HR-V e:HEV ใหม่ ด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเริ่มต้น 899,000 บาท

ไฮไลท์

  • ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 899,000 บาท* ในรุ่น e:HEV E จำนวนจำกัด เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยมาพร้อมข้อเสนอรับฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี Honda Ultimate Care เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 – 31 ม.ค. 68
  • พร้อมตอบรับลูกค้ากลุ่มหลักด้วยราคาเดิม ที่เพิ่มเติมความคุ้มค่ามากขึ้นสำหรับรุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68 รับ ‘Honda Exclusive Care’ ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรี Honda Ultimate Care อีกทั้งฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. และฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี พร้อมรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ทุกรุ่นรับเพิ่มฟรี! บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย. 67 – 27 พ.ย. 67 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67
  • พร้อมข้อเสนออื่น ๆ อาทิ ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.3%* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) หรือดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ค่างวดเริ่มต้นเพียง 8,495 บาท* หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
  • รวมถึงแคมเปญ ‘Honda Happy Trade-in’ ขายรถคันเดิมเพื่อออกรถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รับเพิ่มบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท*
  • สัมผัสกับฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี ใหม่พร้อมรับข้อเสนอพิเศษฯ เดียวกัน ได้ทั้งที่โชว์รูมฮอนด้า ตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 เป็นต้นไป และที่งาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. 67 – 10 ธ.ค. 67

(กรุงเทพฯ – 8 พฤศจิกายน 2567) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศราคาและเปิดจำหน่ายฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความเป็นเอสยูวี
ยอดนิยม ที่พร้อมตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น โดยราคาทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV E ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 899,000 บาท* จำนวนจำกัด เมื่อจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 มกราคม 2568 ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับไฮบริดเอสยูวีที่คุ้มค่าในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย (ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 949,000 บาท ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป)
  • รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท ราคาเดิม! เพิ่มเติมฟังก์ชันที่เติมเต็มทุกการใช้งาน
  • รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท ราคาเดิม! ที่อัปลุคดีไซน์แบบสปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน

ฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมหลากหลายข้อเสนอพิเศษ* ที่มอบความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ อาทิ

  • รุ่น e:HEV E เมื่อจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 มกราคม 2568 รับข้อเสนอ
    • ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.69%* (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.99% สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมงเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
    • ทางเลือกที่ 2 : ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ
      • ค่างวดเริ่มต้นเพียง 9,328 บาท หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%
      • ฟรี! ประกันภัย 1 ปี
      • ฟรี! รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
      • ฟรี! Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

  • รุ่น e:HEV RS และ e:HEV EL เมื่อจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 รับข้อเสนอ
    • ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.69%* (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.99% สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care’ ประกอบด้วย 
      • ฟรี! ประกันภัย 1 ปี 
      • ฟรี! รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
      • ฟรี! แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
      • ฟรี! Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
    • ทางเลือกที่ 2 : ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ
      • รับฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 2,700 บาท จำนวน 12 เดือน รวมมูลค่า 32,400 บาท
      • ค่างวดเริ่มต้นเพียง 8,495 บาท หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%
      • พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care’ รวมมูลค่า 157,000 บาท ประกอบด้วย
      • ฟรี! ประกันภัย 1 ปี 
      • ฟรี! รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
      • ฟรี! แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
      • ฟรี! Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ ‘Honda Happy Trade-in’ เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถรับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ
    รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • ทุกรุ่น รับเพิ่มฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ตั้งแต่ 10 กันยายน 2567 – 7 พฤศจิกายน 2567 พร้อมจองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 หรือสำหรับลูกค้าใหม่ที่จองตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2567 – 27 พฤศจิกายน 2567 และรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567

สัมผัส ฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี ใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และพบกันที่บูทฮอนด้า (A08) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 (The 41st Thailand International Motor Expo 2024) ณ อาคาร IMPACT Challenger เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567

ไฮไลท์ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี ใหม่

ดีไซน์ภายนอก

  • ทุกรุ่น ได้รับการออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความโดดเด่นเฉพาะรุ่น โดยรุ่น e:HEV RS มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตในดีไซน์ใหม่ และรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ

Honda HR-V e:HEV E

Honda HR-V e:HEV EL

Honda HR-V e:HEV RS
  • ใหม่! รุ่น e:HEV RS มาพร้อมไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke

  • ใหม่! รุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond Cut

  • สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก)

สีกากีแซนด์ (มุก) พร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน

สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) พร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน

สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)

สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)

สีขาวแพลทินัม (มุก)

สีดำคริสตัล (มุก)

ดีไซน์ภายใน

  • ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยทุกรุ่นได้รับการออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน

  • ใหม่! ทุกรุ่นมาพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

  • ใหม่! ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมการอัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่ ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง

  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก

เทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบาย ที่เพิ่มเติมในหลากรุ่น** ตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์ มอบความคุ้มค่าในการใช้งาน 

  • ใหม่! รุ่น e:HEV EL เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

  • ใหม่! รุ่น e:HEV EL เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)

  • ใหม่! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่
    ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
  • ใหม่! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง 
  • ใหม่! รุ่น e:HEV E เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง

  • ใหม่! รุ่น e:HEV E เพิ่มจำนวนลำโพงเป็น 6 ตำแหน่ง

เทคโนโลยีความปลอดภัยและเทคโนโลยีการขับขี่ล้ำสมัย** มอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง

  • ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่!
    ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) 

  • ใหม่! รุ่น e:HEV RS มาพร้อมไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) 

  • ใหม่! รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด

  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) 

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
  • ระบบ Auto Brake Hold 

  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)

  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (Electric Adjustable and Auto Foldable Side Door Mirrors)

  • กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (Auto Tilt-down Door Mirror When Reverse)

  • ช่องเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ (Cargo Floor Box)

  • ฟังก์ชันครบครัน รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน (Smart Comfort & Utility)

  • ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close)

ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ทรงพลัง อัตราเร่งทันใจ แต่ให้อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม

  • ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะทรงพลังจากการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ตอบสนองทันใจ มั่นใจในทุกการออกตัวด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที 

  • ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร ให้คุณก้าวสู่ทุกจุดหมายได้อย่างอิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง***
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)

  • ตอบสนองทุกการขับขี่ ด้วยโหมดการขับขี่ปรับได้ 3 รูปแบบ (Drive Mode Switch)

  • หลักการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV

  • การรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด e:HEV

สมรรถนะการขับขี่อันโดดเด่น ขับสนุกสไตล์เอสยูวี

  • มาพร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม โดยพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมและความคล่องตัวในการขับขี่

  • รุ่น e:HEV RS มาพร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าพร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน (VGR) ที่สามารถปรับอัตราทดพวงมาลัยได้แปรผันตามความเร็วและมุมเลี้ยวของพวงมาลัย มอบเสถียรภาพและความมั่นใจในการขับขี่ในทุกย่านความเร็ว อีกทั้งการบังคับเลี้ยวเข้าโค้งที่ควบคุมได้ดั่งใจ

Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้า

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System : CMBS)

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow : ACC with LSF)

  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)

  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System : LKAS)

  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB)

  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ *เฉพาะรุ่น e:HEV RS (Adaptive Driving Beam : ADB)

  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System : LCDN)

อัปลุคสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo

มาพร้อมแนวคิด “More Premium and Sporty SUV” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ สเกิร์ตหน้า ราคา 11,000 บาท สเกิร์ตหลัง (แบบ 2 ชิ้น) ราคา 6,000 บาท ชุดตกแต่งประตูข้าง ราคา 11,000 บาท ที่มาพร้อมสี Shark Gray เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้น อีกทั้งกระจังหน้า ราคา 21,500 บาท ฟิล์มตกแต่งเสาประตูหลัง ราคา 2,500 บาท ชุดโลโก้สีดำ ราคา 1,300 บาท ชุดไฟส่องสว่างบริเวณฝาท้ายรถ ราคา 2,500 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่

  • Modulo Urban Package (สี Shark Gray) ราคา 21,000 บาท ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง (แบบ 2 ชิ้น) และชุดตกแต่งประตูข้าง

  • Utility Package ราคา 4,800 บาท ประกอบด้วยม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้ายรถ

  • กระจังหน้า (Front Grille) ราคา 21,500 บาท

  • ชุดโลโก้สีดำ (Black Emblem) ราคา 1,300 บาท

  • ชุดไฟส่องสว่างบริเวณฝาท้ายรถ (Tailgate Light) ราคา 2,500 บาท

  • ฟิล์มตกแต่งเสาประตูหลัง (Quarter Pillar Decal) ราคา 2,500 บาท

ดูรายละเอียดชุดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/hrv

พิเศษ! ครั้งแรกกับชุดแต่ง MUGEN เอาใจสาวกฮอนด้า

อุปกรณ์ตกแต่งจาก MUGEN สำนักแต่งรถชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ยกระดับความแกร่งสไตล์สปอร์ตในแนวคิด ‘Sporty Energize with Aggressive Styling’ กับอุปกรณ์ตกแต่งมูเกน (MUGEN) ที่มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน และหลากหลายไอเท็มให้เลือกตกแต่งจัดเต็มความสปอร์ต อาทิ สปอยเลอร์หน้า สปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ตข้าง โดยจะประกาศรายละเอียดการจำหน่ายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/hrvehev

หมายเหตุ 
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
**อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
***ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการ
ขับขี่ของแต่ละบุคคล)
– สีกากีแซนด์ (มุก) หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 14,000 บาท สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 10,000 บาท สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และ สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
– ราคาอุปกรณ์ตกแต่ง ไม่รวม VAT 7%
– กรณีติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพร้อมรถยนต์ใหม่ รับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

ข่าวประชาสัมพันธ์จาก ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S