ใน ,

หลุดภาพภายในของ NIO Firefly เผยให้เห็นห้องโดยสารด้านหน้าเป็นครั้งแรก

หลังจากที่ NIO เปิดตัวรถรุ่นแรกของแบรนด์ใหม่ Firefly อย่างเป็นทางการช่วงปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดเราก็เริ่มเห็นรถรุ่นนี้วิ่งทดสอบในจีนแล้ว และครั้งนี้ก็มีการเผยแพร่ภาพภายในรถมาให้ชมกันด้วย

หลุดภาพภายในของ NIO Firefly เผยให้เห็นห้องโดยสารด้านหน้าเป็นครั้งแรก

NIO เปิดตัวแบรนด์ย่อยใหม่ชื่อว่า Firefly ในงาน NIO Day 2024 ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดตัวรถรุ่นแรกของแบรนด์ที่ใช้ชื่อว่า Firefly เหมือนกับชื่อแบรนด์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กระดับพรีเมียม มีคู่แข่งเป็น BMW Mini และ Smart ของ Mercedes-Benz

ในงานเปิดตัวตอนนั้น NIO ได้แชร์ภาพการออกแบบภายนอกของรถ Firefly มาให้ชมกันหลายภาพ แต่ยังไม่มีใครได้เห็นภาพการออกแบบภายในของรถรุ่นนี้ [ชมสเปคเบื้องต้น]

ล่าสุด ก็มีภาพหลุดใหม่จากสื่อจีนที่เผยให้เห็นภายในของ Firefly ที่ดูมีลักษณะเหมือนกับภายในของรถ NIO

จากภาพสังเกตได้ว่าภายในรถมีปุ่มสีแดงขนาดใหญ่อยู่ตรงคอนโซลกลาง เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ารถคันนี้เป็นรถต้นแบบที่ใช้งานได้ นอกจากนี้บนพวงมาลัยมีโลโก้ Firefly ส่วนด้านหลังพวงมาลัยก็มีแผงหน้าปัดเล็ก ๆ และมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์กลางแบบแนวนอน สอดคล้องกับการออกแบบภายในของ NIO

รถ Firefly ที่พบเห็นดังกล่าว คาดว่ากำลังนำมาทดสอบในประเทศจีน และน่าจะเข้าสู่ตลาดต่างประเทศเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากแบรนด์นี้ NIO เปิดตัวเป็นแบรนด์รถยนต์ Global

ตามข้อมูลของ NIO ที่เผยระหว่างงานเปิดตัวแบรนด์ระบุว่า Firefly รุ่นเรือธงนี้จะเริ่มเปิดตัวในจีนประมาณเดือนเมษายน 2025 ในราคาเริ่มต้น 148,800 หยวน และจะตามมาด้วยยุโรปไม่นานหลังจากเปิดตัวในจีน ซึ่งการจำหน่ายในยุโรปนั้นจะอาศัยพันธมิตรในพื้นที่ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงครึ่งแรกของปี 2025

Firefly อาจมีโอกาสเข้าไทย

ย้อนกลับไปในงานเปิดตัว Firefly ช่วงที่ William Li แสดงวิดีโอเกี่ยวกับการดีไซน์รถที่มาพร้อมสิ่งที่โดดเด่น 3 ประการ โดยมีการแสดงคำว่า “สาม” ในภาษาไทยด้วย 3 สิ่งที่กล่าวถึง ได้แก่

  • Vivid – ผลิตภัณฑ์ Firefly กระตุ้นอารมณ์เชิงบวกและสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้ ด้วยไฟหน้าและไฟท้าย 3 ดวง
  • Thoughtful – การออกแบบที่สมดุล แข็งแรง และรอบคอบ
  • Solid – ถ่ายทอดความเชื่อมั่นและความมั่นใจ ดูโดดเด่นและน่าดึงดูด

จึงคาดว่าแบรนด์ Firefly ของ NIO มีโอกาสที่จะนำเข้ามาทำการตลาดในไทยด้วย ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า หลังจากที่เปิดตัวในจีนและยุโรปช่วงครึ่งแรกปีนี้แล้ว ช่วงครึ่งหลังของปีจะมีอัปเดตในไทยด้วยหรือไม่

ที่มา electrek

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.