Nio แบรนด์ย่อย Firefly ได้ประกาศความร่วมมือกับ HERE Technologies ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งชั้นนำระดับโลก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบริการขับขี่อัจฉริยะในต่างประเทศ
Nio Firefly จับมือ HERE Technologies ใช้แผนที่ขับขี่อัจฉริยะทั่วโลก
HERE และ Firefly ร่วมเป็นพันธมิตรกันเพื่อจัดหาข้อมูลแผนที่และบริการตำแหน่งที่ตั้งให้กับแบรนด์ย่อยของ Nio เพื่อยกระดับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) โดย HERE ระบุว่าความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การขับขี่โดยรวมของรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของ Firefly ซึ่ง Firefly จะใช้รายละเอียดของแผนที่ทั่วโลกของ HERE ซึ่งรวมถึงระบบนำทางแบบเชื่อมต่อและ ADAS
HERE กล่าวว่า Firefly แบรนด์ย่อยของ Nio จะใช้ข้อมูลจำกัดความเร็วของ HERE เพื่อรวมข้อมูลจำกัดความเร็วล่าสุด ซึ่งสนับสนุนข้อกำหนด Intelligent Speed Assistance (ISA) ทั่วยุโรป
นอกจากนี้ ด้วยความร่วมมือของ HERE กับ Telenav Inc. Firefly จะรวมชุดบริการตำแหน่งที่ตั้งของ HERE เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่และระบบนำทางที่ปรับแต่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์
Firefly เป็นแบรนด์ย่อยของ Nio ที่มุ่งเป้าไปที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กระดับพรีเมียม ซึ่งได้เปิดตัวรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในประเทศจีนเมื่อวันที่ 19 เมษายน โดยเริ่มส่งมอบรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน
รถยนต์ไฟฟ้า Firefly ซึ่งรวมแบตเตอรี่ด้วย มีราคาเริ่มต้นที่ 119,800 หยวน (ประมาณ 540,000 บาท) ในจีน โดยมีคู่แข่งโดยตรงคือ BMW MINI และ Mercedes-Benz Smart
Nio Firefly มุ่งสู่ตลาดโลก และแผนการเปิดตัวในยุโรป
Firefly มีเป้าหมายที่ตลาดโลก เดิมที Nio วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกของแบรนด์ย่อยนี้ในยุโรป แต่ภายหลังได้เลือกที่จะเปิดตัวในจีนก่อนเนื่องจากความซับซ้อนของภาษีสหภาพยุโรป
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้จัดการผลิตภัณฑ์จาก Firefly ได้ขับรถจากเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ผ่าน 7 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และออสเตรีย ในช่วงเวลาทดสอบ 15 วัน
ด้านของ HERE มีต้นกำเนิดในปี 1985 และถูก Nokia ซื้อไปในช่วงต้นยุค 2000 ในปี 2015 Nokia ได้ขายธุรกิจ HERE ให้กับกลุ่มบริษัทรถยนต์ชั้นนำ ซึ่งรวมถึง Audi, BMW และ Daimler
คริส เฉิน รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจทั่วโลกของ Nio กล่าวว่า เพื่อนำ Firefly สู่ยุโรป บริษัทจำเป็นต้องร่วมมือกับพันธมิตรที่เข้าใจความซับซ้อนของการขับเคลื่อนทั่วโลก
เฉินกล่าวว่า “ด้วยความเชี่ยวชาญของ HERE มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่ Firefly จะได้รับประสบการณ์โซลูชันการขับเคลื่อนที่ราบรื่นและอัจฉริยะไม่ว่าจะอยู่ที่ใด”
ความร่วมมือนี้คาดว่าจะปูทางไปสู่การเปิดตัว Firefly ในยุโรปในอนาคต
ในการตอบคำถามจาก CnEVPost ในระหว่างการประชุมสื่อมวลชนที่เซี่ยงไฮ้ก่อนงาน Shanghai auto show ในช่วงปลายเดือนเมษายน ฉิน ลี่หง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Nio กล่าวว่า Firefly จะเลือกเวลาที่เหมาะสมระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมเพื่อเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกในยุโรป
ฉินกล่าวว่าภายในสิ้นปีนี้ Firefly จะเข้าสู่ตลาดต่างประเทศประมาณ 20 แห่ง โดยเวอร์ชันพวงมาลัยขวาจะพร้อมภายในเดือนตุลาคมเป็นอย่างช้าที่สุด
ฉินกล่าวเพิ่มเติมว่า Firefly เวอร์ชันพวงมาลัยขวาจะพร้อมให้บริการในตลาดต่าง ๆ เช่น สหราชอาณาจักรและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอันดับแรก