Sahakrit S
Audi บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ได้ประกาศจับมือกับ SAIC (Shanghai Automotive Industry Corporation) กลุ่มบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์แบรนด์ Maxus, Roewe, IM Motors และ MG ในการพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน อาจได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจาก Audi ที่มีประสิทธิภาพสูง ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
SAIC Group ได้ทำการเซ็น MOU ร่วมกับ Audi เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีรุ่นใหม่ร่วมกัน
วันที่ 27 กรกฎาคม 2023 – SAIC GROUP ได้ทำการเซ็น MOU ร่วมกับ Audi เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ การพัฒนาแพลตฟอร์มร่วมกัน รวมถึงระบบการเชื่อมต่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวจีน โดย SAIC GROUP จะใช้ข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยทำงานร่วมกับ AUDI เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใหม่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงการทำรถรุ่นใหม่โดยใช้แพลตฟอร์ม “ SAIC NEBULA TECHNOLOGY ”
สำหรับ SAIC NEBULA TECHNOLOGY ถือเป็น เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก มีความยืดหยุ่นสูง และถูกนำมาใช้กับ รถไฟฟ้าอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ที่เจาะตลาดในยุโรป รวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลก และถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มตัวนี้ โดยแพลตฟอร์มตัวนี้ถูกออกแบบมาสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าหลากหลายเซ็กเมนต์ครอบคลุมตั้งแต่รถขนาดเล็กไปจนถึงรถขนาดใหญ่ และรองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ รวมถึงรถไฟฟ้าระดับไฮเอนด์จาก ค่าย IM Motors ภายใต้ SAIC GROUP อย่าง IM LS7 ก็ใช้แพลตฟอร์มตัวนี้ในการออกแบบเช่นกัน
SAIC Group จับมือกับ Audi จะเกิดอะไรขึ้น
SAIC Group มีจุดเด่นของเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก อย่าง NEBULA TECHNOLOGY ที่มีความยืดหยุ่นสูง ที่มีความแข็งแกร่ง โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวอยู่ใน NEW MG4 ELECTRIC และแบรนด์ระดับไฮเอนด์จาก IM Motors ในรุ่น IM LS7
สถาปัตยกรรมไฟฟ้าของ IM Motors เน้นปรับปรุงความแข็งแกร่ง ด้วยการใช้เหล็กเกรดเรือดำน้ำเพื่อปกป้องห้องโดยสาร รองรับแรงกระแทกได้มากขึ้น รวมถึงการพลิกคว่ำ
- ช่วงล่างถุงลมจาก Continental Germany
- ระบบปรับความหน่วงไดนามิกแม่เหล็กไฟฟ้า DampTronic จาก Bilstein
- ระบบเบรกคุณภาพสูง 4 ลูกสูบ จาก brembo
- ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง Pilot Sport EV จาก Michelin
- ระบบบังคับเลี้ยวอิเล็กทรอนิกส์จาก Bosch
การที่ Audi เข้าร่วมเซ็น MOU เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยใช้แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งจาก SAIC Group หรือแพลตฟอร์มที่พัฒนาร่วมกัน สามารถผลิตรถได้เร็วขึ้น, ขายรถยนต์ได้มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ อาจได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจาก Audi ที่มีประสิทธิภาพสูง ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
Audi วางแผนที่จะใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ SAIC Group สำหรับรุ่นการผลิตรถต้นแบบ Activesphere, Urbansphere, Skysphere และ Grandsphere ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
ภาพประกอบบทความ – netcarshow และ ArenaEV
บทความที่เกี่ยวข้อง
พาชมคันจริง! IM LS7 และ IM L7 จาก IM Motors ในงาน Shanghai Auto Show 2023
