นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษที่ดูเหมือนว่า Tesla พร้อมแล้วที่จะถอดคำว่า Beta รุ่นทดสอบ ออกจากฟีเจอร์หลักอย่าง Autopilot จากการเจาะลึกข้อมูลซอฟต์แวร์อัปเดตเวอร์ชัน 2025.38 โดย Greentheonly แฮกเกอร์ขาประจำของ Tesla พบว่าทางบริษัทกำลังเตรียมที่จะลบสถานะ Beta ออกจากระบบ Autosteer
Tesla เตรียมเปิดตัวไอคอนแจ้งเตือนแบบใหม่ และวางแผนปลดคำว่า Beta ออกจากระบบ Autosteer
แม้ว่า Tesla จะมีการปรับเปลี่ยนชื่อเรียกด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับ FSD ไปบ้างแล้ว แต่การถอดคำว่า Beta ออกจาก Autosteer ในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าในที่สุด Tesla ก็มองว่าซอฟต์แวร์พื้นฐานของ Autopilot มีความเสถียรและสมบูรณ์พอที่จะเป็นสินค้ามาตรฐาน สำหรับวางจำหน่ายทั่วไปได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม Tesla ยังไม่ได้ลบข้อความเตือนที่จะปรากฏบนหน้าจอเมื่อเปิดใช้ Autosteer ครั้งแรก ซึ่งยังคงย้ำเตือนผู้ใช้ว่าระบบนี้ยังต้องการการดูแลจากคนขับ
![]()
นอกจากการถอดคำว่า Beta ออกแล้ว Tesla ยังเตรียมเปิดตัวระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ที่อัจฉริยะยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะปูทางไปสู่ความสามารถในการ “พิมพ์ข้อความขณะขับรถ” ได้ในอนาคตอันใกล้ โดยไอคอนใหม่ที่ทาง Green ค้นพบนั้น แบ่งระดับการเตือนออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งจะทำงานแปรผันตามความมั่นใจในการขับขี่ของรถ ในสถานการณ์นั้น ๆ ดังนี้
![]()
- ความมั่นใจสูง: สัญลักษณ์รูปศีรษะสีขาว ตาเป็นสีขาว
- ความมั่นใจปานกลาง: สัญลักษณ์รูปศีรษะสีขาว ตาเป็นสีแดง
- ความมั่นใจต่ำ: สัญลักษณ์รูปศีรษะสีแดง ตาเป็นสีแดง
สิ่งนี้หมายความว่า Tesla กำลังพัฒนาระบบที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ละสายตาจากถนนได้ โดยขึ้นอยู่กับว่ารถมีความมั่นใจในการขับขี่มากน้อยแค่ไหนในขณะนั้น

หากอยู่ในระดับความมั่นใจสูง ผู้ขับขี่อาจจะถูกเตือนให้ชำเลืองมองถนนเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่เมื่อระดับความมั่นใจลดลง ผูขับขี่จำเป็นต้องใส่ใจมากขึ้น และในระดับความมั่นใจต่ำสุด สายตาของผู้ขับขี่จะต้องจับจ้องที่ถนนตลอดเวลาและพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถทันที
นอกจากนี้ Green ยังค้นพบข้อความเตือนใหม่ในโค้ดระบุว่า “กำลังเข้าใกล้ชายแดนประเทศ ฟีเจอร์ FSD อาจไม่สามารถใช้งานได้” ซึ่งคาดว่าเป็นฟีเจอร์ของระบบ FSD แบบจำกัดพื้นที่ตามพรมแดน (Geofenced FSD)
![]()
นี่น่าจะเป็นเบาะแสสำคัญสำหรับการเปิดตัว FSD ในยุโรป โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวว่า Tesla เล็งที่จะปล่อย FSD ในเนเธอร์แลนด์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2026 และหวังว่าจะขยายไปยังประเทศอื่นใน EU ต่อไป หมายความว่า FSD อาจถูกกฎหมายในประเทศหนึ่ง แต่เมื่อรถขับข้ามพรมแดน ฟีเจอร์ต่าง ๆ อาจถูกลดทอนลงอัตโนมัติตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ (คล้ายกับกรณีที่ฟีเจอร์ถูกปิดเมื่อขับข้ามจากสหรัฐฯ ไปเม็กซิโก)
วิธีนี้จะช่วยให้ Tesla สามารถเปิดใช้งาน FSD ในประเทศที่มีกฎหมายรองรับได้ทันที โดยไม่ต้องรอการอนุมัติพร้อมกันทั้งสหภาพยุโรป
ที่มา notateslaapp