Tesla มีโหมดที่ชื่อว่า โหมดล้างรถ (Car Wash Mode) ช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น โดยระบบจะเปิดหรือปิดฟีเจอร์บางอย่างให้อัตโนมัติ ไม่เพียงแค่ป้องกันความเสียหาย แต่ยังช่วยให้การล้างรถสะดวกและสะอาดมากขึ้น เช่น การปิดระบบดูดอากาศจากภายนอก เพื่อกันกลิ่นสารเคมีเข้ามาในรถ
Tesla อาจเพิ่มการแจ้งเตือนการเปิดหน้าต่าง เมื่อเปิดใช้งานโหมดล้างรถ (Car Wash Mode)
เมื่อเปิดใช้งานโหมดล้างรถ (Car Wash Mode) ระบบจะมีรายการเช็กรายการต่าง ๆ พร้อมสถานะแบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนหากมีบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น ฝากระโปรงหลังยังเปิดอยู่
เจ้าของรถยนต์ Tesla สามารถเปิดโหมดนี้ได้โดยไปที่ เมนู Controls > Service > Car Wash Mode ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว รถจะดำเนินการอัตโนมัติดังนี้
- ปิดหน้าต่างทุกบาน
- ล็อกฝาปิดช่องชาร์จไฟ เพื่อป้องกันการเปิดโดยไม่ตั้งใจ
- ปิดระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- ปิดโหมด Sentry
- ปิดระบบล็อครถ เมื่อเดินออก
- ปิดเสียงเตือนจากเซ็นเซอร์จอดรถ
- เปิดตัวเลือกพับกระจกข้างและโหมด Free Roll (สามารถใส่เกียร์ว่างผ่านคันเกียร์ได้)
แม้ว่าโหมด Car Wash จะดูแลหลายส่วนของรถ แต่ระบบจะไม่ตรวจสอบหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ เมื่อเราเปิดโหมดนี้ รถจะเลื่อนหน้าต่างทุกบานขึ้นอัตโนมัติในตอนแรก แต่ถ้าเราลดหน้าต่างลงด้วยตนเองหลังจากนั้น ระบบจะไม่เตือนหรือปิดให้อัตโนมัติ ซึ่งอาจทำให้น้ำเข้าไปภายในรถได้
มีผู้ใช้รายหนึ่งชื่อ Lincoln ได้โพสต์วิดีโอลงใน X เล่าเหตุการณ์ที่เพื่อนของเขาลดหน้าต่างลงโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้ตัว หลังจากเปิดโหมดล้างรถ ทำให้น้ำเข้าไปในรถ เขาจึงเสนอให้ Tesla เพิ่มการเตือนเกี่ยวกับหน้าต่างในระบบ
Troy R. Jones รองประธานฝ่ายขายและบริการของ Tesla ในอเมริกาเหนือ เห็นโพสต์นี้และตอบกลับว่าจะส่งคำแนะนำนี้ไปยังทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Tesla
แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีฟีเจอร์นี้ในอัปเดตถัดไปหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าบริษัทกำลังรับฟังผู้ใช้
แนวทางการปรับปรุงที่เป็นไปได้ที่ Tesla อาจเพิ่มฟีเจอร์นี้ได้หลายแบบ เช่น
- เพิ่มการแจ้งเตือนบนหน้าจอ หากหน้าต่างถูกเปิดในโหมดล้างรถ (Car Wash)
- ล็อกหน้าต่างด้านหลังไม่ให้เปิดได้ ขณะอยู่ในโหมดล้างรถ (Car Wash)
- สร้างปุ่มแจ้งเตือนบนหน้าจอ เมื่อผู้ใช้พยายามลดหน้าต่าง โดยให้ผู้ใช้เลือกว่าจะยืนยันการเปิดหรือไม่
แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้มากทีเดียว ซึ่ง Tesla แสดงให้เห็นว่า บริษัทพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองผู้ใช้ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ในการอัปเดตเวอร์ชันอนาคตหรือไม่
ที่มา notateslaapp