Sakura P.
Tesla ได้เปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยสำคัญตัวใหม่ล่าสุด มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากการลืมเด็กไว้ในรถ ก่อนหน้านี้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า Tesla กำลังวางแผนที่จะนำฟีเจอร์นี้มาใช้ เพื่อช่วยไม่ให้เด็ก ๆ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายจากการถูกทิ้งให้อยู่ในรถที่ร้อนตามลำพัง
Tesla เริ่มเปิดใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อพบว่าเด็กอยู่ในรถนรถ
Tesla พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหานี้มาเป็นเวลาหลายปี โดยได้พัฒนาระบบเซ็นเซอร์ที่ใช้คลื่นความถี่สูง (Ultrawave sensor) ที่สามารถตรวจจับการเต้นของหัวใจได้ แทนที่จะตรวจจับเพียงการเคลื่อนไหวเหมือนกล้องทั่วไป
และในที่สุด Tesla ก็ได้เริ่มติดตั้งฟีเจอร์นี้ในรถยนต์ แล้วผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 2025.14.12 โดยใช้ชื่อว่า Child Left Alone Detection หรือระบบตรวจจับเด็กที่ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง
รายละเอียดจากบันทึกการอัปเดตจากแอป Not a Tesla App ระบุว่า ทั้งตัวรถยนต์และแอปพลิเคชัน Tesla จะพยายามแจ้งเตือนคนขับหากตรวจพบว่ามีเด็กอยู่ในรถ โดยมีวิธีการดังนี้
หากระบบตรวจพบว่ามีเด็กถูกทิ้งไว้ในรถตามลำพัง ไฟเลี้ยวด้านนอกรถจะกะพริบ รถจะส่งเสียงเตือน และจะมีการแจ้งเตือนไปยังแอป Tesla ของผู้ใช้ การแจ้งเตือนเหล่านี้จะเกิดขึ้นซ้ำเป็นระยะ จนกว่าผู้ใช้จะกลับมาที่รถ ข้อมูลภายในห้องโดยสารจะถูกประมวลผลที่ตัวรถเท่านั้น และจะไม่ถูกส่งไปยัง Tesla ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น
หากต้องการปิดใช้งาน ให้ไปที่ Controls > Safety > Child Left Alone Detection
ภายหลัง Tesla ได้แจ้งเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นฟีเจอร์นี้จะเริ่มให้บริการกับรถยนต์ Model 3 ที่ผลิตตั้งแต่ช่วงกลางปี 2023 เป็นต้นไปในทวีปยุโรปก่อน ส่วนรถยนต์รุ่นอื่น ๆ และในภูมิภาคอื่นจะได้รับการอัปเดตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ปัญหาการลืมเด็กไว้ในรถ เรามักจะเห็นได้จากข่าวทั่วไป ดังนั้นการใส่ฟีเจอร์ที่ช่วยตรวจจับและแจ้งเตือนนี้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้มากขึ้น ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว
ที่มา Teslarati
