Tesla ได้เปิดตัวระบบผู้ช่วยเสมือนจริงในรถยนต์ที่สั่งการด้วยเสียงเป็นครั้งแรกในรุ่น Model Y L ที่จีน และตอนนี้ Tesla กำลังจะพัฒนาฟีเจอร์นี้ให้ดีขึ้นไปอีกขั้น โดยใช้โมเดล AI ของบริษัทท้องถิ่น เพื่อสู้กับคู่แข่งในตลาดจีน
Tesla เตรียมใช้ AI ของจีนอย่าง DeepSeek เพื่อยกระดับระบบสั่งการด้วยเสียง
เอกสารข้อกำหนดและเงื่อนไขบนเว็บไซต์ของ Tesla ระบุว่า รถยนต์รุ่น Model Y L จะผสานการทำงานกับโมเดล AI จากบริษัท DeepSeek และ Doubao ของ ByteDance ซึ่งทั้งคู่จะทำงานบนระบบคลาวด์ Volcano Engine ของ ByteDance
ระบบ Doubao จะทำหน้าที่รับคำสั่งเสียงทั่วไป เช่น ตั้งค่าการนำทาง, ควบคุมการเล่นเพลง, ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ และยังสามารถเข้าถึงคู่มือการใช้งานรถได้ ส่วน DeepSeek จะให้บริการแชทด้วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Tesla ยังได้ร่วมมือกับ Volcano Engine เพื่อนำโมเดล AI มาใช้ในระบบการโต้ตอบภายในรถ ตามรายงานจากสื่อจีน Yicai
การใช้ผู้ช่วยเสียงเสมือนจริงสำหรับรถยนต์ Tesla ในตลาดสหรัฐอเมริกา จะใช้โมเดล AI ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท xAI ของ Elon Musk เอง
รถยนต์ Tesla Model Y L เปิดตัวในจีนเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป็นรุ่น 6 ที่นั่งใหม่ล่าสุดที่มาเสริมทัพในตระกูล Model Y นอกเหนือจากรุ่น 5 ที่นั่งเดิม ผู้ใช้งานสามารถปลุกระบบผู้ช่วยในรถได้ด้วยคำสั่งเสียง “Hey, Tesla” หรือคำสั่งที่กำหนดเอง ในขณะที่รถเทสลารุ่นอื่น ๆ ในจีน ผู้ใช้ยังคงต้องกดปุ่มบนพวงมาลัยเพื่อสั่งการด้วยเสียง
ความสามารถด้านระบบอัจฉริยะในห้องโดยสารของ Tesla ในจีนนั้น ถือว่ายังล้าหลังเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพราะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าท้องถิ่นได้นำระบบผู้ช่วยอัจฉริยะมาใช้ในรถมานานแล้ว และยังพัฒนาให้มีความสามารถด้าน AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ DeepSeek ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่การเปิดตัวโมเดล R1 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้สร้างความประหลาดใจให้กับ Silicon Valley เมืองแห่งไอทีของสหรัฐอเมริกา และความสามารถที่โดดเด่นของ AI นี้ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายในจีน
บริษัทรถยนต์ชื่อดังหลายแห่ง เช่น Zeekr, Dongfeng Nissan, Dongfeng Voyah, และ Dongfeng M-Hero ต่างประกาศว่าจะนำโมเดล AI ของ DeepSeek มาใช้ในรถยนต์ของตนเมื่อต้นปีนี้
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา DeepSeek ยังได้เปิดตัวโมเดลล่าสุด DeepSeek-V3.1 โดยกล่าวว่าเป็นก้าวแรกสู่ยุค Agent ซึ่งโมเดลใหม่นี้จะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบผสม, ประสิทธิภาพการคิดที่สูงขึ้น และความสามารถในการเป็นตัวแทน (Agent) ที่แข็งแกร่งขึ้น
ที่มา cnevpost