ใน ,

Tesla เตรียมปล่อย Spring Update 2025 บันทึกกล้อง B-Pillar, ปรับปรุง Dashcam, ระบบนำทางเลี่ยงทางด่วน และฟีเจอร์ใหม่อีกมากมาย

Tesla ได้ประกาศรายละเอียดของอัปเดตใหญ่ประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2025 (Spring Update) ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย ทั้งที่ผู้ใช้รอคอยและฟีเจอร์ใหม่ที่อาจจะมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตัวอย่างเช่น ระบบ Adaptive Matrix High Beams ที่จะเปิดให้ใช้งานในอเมริกาเหนือ และฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ อีกมากมาย

Tesla เตรียมปล่อย Spring Update 2025 บันทึกกล้อง B-Pillar, ปรับปรุง Dashcam, ระบบนำทางเลี่ยงทางด่วน และฟีเจอร์ใหม่อีกมากมาย

บันทึกกล้อง B-Pillar เพิ่มใน Dashcam และ Sentry Mode

เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ใช้ Tesla ได้เพิ่มการบันทึกภาพจากกล้อง B-Pillar (บริเวณเสากลางข้างตัวรถ) เข้าไปในระบบ Dashcam และ Sentry Mode แล้ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการตรวจจับการก่อกวนหรือทำลายรถ

แม้ฟีเจอร์นี้จะใช้พื้นที่จัดเก็บมากขึ้น เพราะมีการบันทึกกล้องเพิ่มอีก 2 ตัว แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้เฉพาะรถรุ่นใหม่ที่ใช้ HW4 (AI4) เท่านั้น

ปรับปรุง Dashcam Viewer

หน้าตาการแสดงผลของ Dashcam Viewer ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน ผู้ใช้จะสามารถดูภาพจากกล้องหลายตัวพร้อมกันได้ และผู้ใช้สามารถเลือกโฟกัสไปที่กล้องใดกล้องหนึ่งได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีปุ่มเลื่อนไปข้างหน้าหรือย้อนกลับ 15 วินาที และปุ่มดูวิดีโอถัดไปที่อยู่มุมขวาบน โดยไม่ต้องย้อนกลับไปยังรายชื่อวิดีโอเหมือนแบบเดิม

การนำทางแบบใหม่: หลีกเลี่ยงทางด่วน

ในอัปเดตนี้มีตัวเลือกเส้นทางใหม่ 3 แบบให้เลือก ได้แก่:

  • Fastest: เส้นทางที่เร็วที่สุด โดยไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพหรือจุดชาร์จ
  • Best Amenities & Fewer Stops: เส้นทางที่ลดจำนวนครั้งในการชาร์จ แต่จะเลือกจุดแวะพักที่มีร้านอาหารหรือห้องน้ำ
  • Avoid Highways: ฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย ช่วยหลีกเลี่ยงการใช้ทางด่วน หากไม่จำเป็น เหมาะกับผู้ที่ต้องการขับรถชิล ๆ ผ่านเส้นทางธรรมชาติ

ปรับความสูงฝาท้ายตามสถานที่

Tesla เพิ่มความสามารถในการตั้งความสูงของฝาท้ายอัตโนมัติตามสถานที่ เช่น ตั้งให้เปิดต่ำ ๆ เมื่อจอดในโรงรถที่มีหลังคาเตี้ย วิธีการคือ ปรับความสูงฝาท้ายด้วยมือ แล้วกดปุ่มฝาท้ายค้างไว้จนได้ยินเสียงเตือน ก็จะตั้งค่าให้ฝาท้ายอยู่ระดับที่ต้องการได้ทัน

ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับ Model Y ทุกรุ่น, Model 3 ที่มีฝาท้ายไฟฟ้า และ Model S และ X ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป

ตั้งค่าฝากระโปรงหน้า (Frunk) สำหรับ Cybertruck

Cybertruck ก็สามารถตั้งความสูงในการเปิดฝากระโปรงหน้าได้ด้วบเข่นกัน เพียงกดปุ่มใต้ฝากระโปรงหน้าด้านนอกค้างไว้จนได้ยินเสียงเตือน ระบบจะจดจำความสูงไว้ตามตำแหน่งนั้น ส่วนการกดปุ่มภายในจะเป็นการปิดฝาเท่านั้น

เปิดใช้งาน Adaptive High Beams ในอเมริกาเหนือ

ฟีเจอร์เด่นของอัปเดตครั้งนี้คือไฟสูงแบบปรับอัตโนมัติ ที่พร้อมให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา หลังจากเปิดตัวในยุโรปเมื่อปีก่อน ซึ่งในไทยบ้านเราก็ได้เปิดใช้งานกันไปแล้ว

ในอเมริกาเหนือ Tesla ใช้เวลานานกว่าจะผ่านขั้นตอนอนุมัติตามกฎระเบียบ แต่ในที่สุดก็พร้อมใช้งานกับรถที่มีไฟหน้าแบบใหม่

ไฟสูงอัจฉริยะจะลดแสงจ้าจากไฟหน้าด้วยการหรี่เฉพาะจุดของหลอด LED Matrix ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้กับ Model Y รุ่นรีเฟรชก่อน และตอนนี้จะรองรับใน Model S, Model 3, Model X และ Model Y รุ่นใหม่ทั้งหมด (ยกเว้น Cybertruck เพราะไฟหน้าขนาดเล็กไม่รองรับเทคโนโลยีนี้)

หากรถมีไฟหน้า Matrix เมื่ออัปเดตแล้วจะมีตัวเลือก Adaptive Headlights ปรากฏในเมนู Controls > Lights > Adaptive Headlights โดยจะเปิดใช้งานอัตโนมัติ

ปรับปรุงกล้องมุมอับสายตา (Blind Spot Camera) สำหรับ Model S / X

Tesla ได้ปรับปรุงระบบกล้องมุมอับ สำหรับ Model S และ X รุ่นปี 2021 เป็นต้นไป เดิมทีภาพจากกล้องจะแสดงเฉพาะบนหน้าจอส่วนกลาง แต่ตอนนี้ผู้ขับสามารถเลือกได้ว่าจะให้ภาพกล้องแสดงบนหน้าปัดฝั่งคนขับแทนได้

ตั้งค่าที่เมนู Controls > Display > Automatic Blind Spot Camera แล้วเลือกให้แสดงบน Driver Screen

ตัวเลือก “Accessory Power” สำหรับใช้งานปลั๊กไฟ 12V ได้ทุกเวลา

Tesla ได้เปิดใช้งานการใช้ปลั๊กไฟ 12V อีกครั้ง ผ่านฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Accessory Power” ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถใช้งานปลั๊กไฟ 12V ภายในรถได้ (ช่องจุดบุหรี่) แม้จะไม่ได้เปิดโหมด Camp Mode ก็ตาม โดยฟีเจอร์นี้ยังครอบคลุมถึงช่อง USB และแท่นชาร์จไร้สายที่อยู่ภายในรถด้วย

สำหรับรถรุ่น Model Y และ Model X จะมีช่องปลั๊กไฟ 12V อยู่ด้านหลังบริเวณเสาด้านซ้าย รวมถึงอีกจุดหนึ่งด้านหน้าของรถ ส่วน Model 3 และ Model S จะมีช่องปลั๊กไฟ 12V เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น

สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยเข้าไปที่ Controls > Charging > Keep Accessory Power On ซึ่งฟีเจอร์นี้จะถูกปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น และจะถูกปิดอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่รถลดลงเหลือ 20% หรือน้อยกว่า Tesla ยังเตือนว่าฟีเจอร์นี้จะใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น

โหมดขับขี่แบบ Comfort สำหรับ Cybertruck

หลังจากที่ Model 3 ได้รับฟีเจอร์ Comfort Mode ไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ Cybertruck ก็ได้รับฟีเจอร์นี้เช่นกัน โดยเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ระบบจะตั้งค่าการขับขี่ให้นุ่มนวลขึ้น เช่น ยกความสูงของช่วงล่าง ปรับระบบกันสะเทือนให้ซอฟต์ขึ้น ปรับการตอบสนองพวงมาลัยให้เบาขึ้น และลดอัตราเร่งให้อยู่ในโหมด Chill เมื่อใช้ระบบ FSD หรือ TACC

สามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์นี้ได้โดยเข้าไปที่ Controls > Autopilot > Use Comfort Mode in Autopilot ซึ่งจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเป็นค่าเริ่มต้น

ระบบป้องกันออกนอกเลน (Lane Departure Avoidance) สำหรับ Cybertruck

ก่อนหน้านี้ Cybertruck ยังไม่มีฟีเจอร์ช่วยเหลือด้านความปลอดภัยบางอย่างใน Autopilot เนื่องจากระบบ Autopilot พื้นฐานยังไม่ถูกติดตั้งมาในรุ่นนี้ มีแค่ระบบ Full Self-Driving (FSD) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตามรถคันหน้า (TACC) เท่านั้น

ในการอัปเดตฤดูใบไม้ผลินี้ Tesla จะเพิ่มฟีเจอร์ Lane Departure Avoidance เข้ามาใน Cybertruck แล้ว โดยเมื่อรถเริ่มออกนอกเลนหรือใกล้จะข้ามเส้นเลน ระบบจะขึ้นสัญลักษณ์สีฟ้าบนหน้าจอ และผู้ขับสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ ได้แก่:

  • None – ไม่แสดงผลหรือแจ้งเตือนใด ๆ
  • Warning – มีเสียงแจ้งเตือน พร้อมแสดงภาพและการสั่นที่พวงมาลัย
  • Assistance – รถจะช่วยเลี้ยวกลับเข้ามาในเลนโดยอัตโนมัติ

ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นในโหมด “Assistance” และสามารถปรับเปลี่ยนได้ที่ Controls > Autopilot > Lane Departure Avoidance

อัปเดตเล็ก ๆ ที่น่าสนใจ

  • สลับภาษาบนแป้นพิมพ์ได้ ตั้งค่าใน Controls > Display > Keyboards
  • ผลการค้นหามีเดียจะกรองตามแหล่งที่มา ช่วยให้เข้าถึงเนื้อหาเร็วขึ้น
  • สามารถสลับเพลย์ลิสต์ Apple Music ที่มีเพลงมากกว่า 100 เพลงได้แล้ว
  • สามารถเลื่อนดูรายการโปรดของ SiriusXM ได้โดยแตะปุ่มพวงมาลัยด้านซ้ายไปทางซ้ายหรือขวา ซึ่งคล้ายกับบริการอื่นๆ
  • รองรับการล็อกอินด้วยบัญชี Amazon Music แบบฟรี (ต้องมี Premium Connectivity หรือ Wi-Fi)
  • YouTube Music แสดงเพลงที่จะเล่นต่อไปในมุมมอง Up Next ในส่วน Media Player
  • ถ้าปกติเราเชื่อมต่อรถกับฮอตสปอตของโทรศัพท์ คุณสมบัตินี้จะเปิดใช้งานทุกครั้งที่เราขับรถ แทนที่จะต้องเชื่อมต่อด้วยตนเองทุกครั้ง

ฟีเจอร์ที่ยังไม่มา แต่คาดหวังว่าจะได้เห็นกันเร็ว ๆ นี้

  • Grok สำหรับ Tesla
  • รองรับ AirPlay / Google Cast
  • เล่นเกม Steam ได้ในรถทุกรุ่น
  • รองรับการส่งข้อความกลุ่ม / แชทกลุ่ม
  • รองรับสมาร์ตวอชท์ Android
  • แจ้งเตือนเมื่อวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในรถ
  • แสดงระดับแบตเตอรี่เมื่อถึงจุดหมายในแอป Tesla
  • เชื่อมกับแอป X (Twitter)
  • ไฟหน้า Adaptive สำหรับ Cybertruck
  • Actually Smart Summon สำหรับ Cybertruck
  • ระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติใน Cybertruck

วันปล่อยอัปเดต Spring Update 2025

ปัจจุบันซอฟต์แวร์​ Spring Update 2025 ยังไม่มีใคร (รวมถึงพนักงาน Tesla) ได้รับการอัปเดตนี้ แต่เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว คาดว่าจะเริ่มปล่อยให้พนักงานภายในสุดสัปดาห์นี้ และหากไม่มีปัญหา คาดว่า Tesla อาจจะเริ่มปล่อยให้ลูกค้ากลุ่มแรกภายในหนึ่งสัปดาห์ รอติดตามกันว่าในไทยจะได้ใช้งานฟีเจอร์ไหนบ้าง

ที่มา notateslaapp

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.