มีรายงานว่า Volvo กําลังปรับเป้าหมายจากที่ต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มทั้งหมดภายในปี 2030 โดยเปลี่ยนเป็นไฮบริดแทนเนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มชะลอตัวลง
Volvo พิจารณารถ Hybrid แทนหลังจากยอดขาย EV ชะลอตัว
การชะลอตัวในตลาดสําคัญอย่าง เช่น สหรัฐอเมริกาและจีน Volvo กําลังพิจารณาอัปเดตแพลตฟอร์ม SPA1 ท่ีใช้กับ XC90 และ XC60 SUV เวอร์ชันไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด เพื่อมุ่งเน้นที่เทคโนโลยีไฮบริดมากขึ้น
Jim Rowan CEO ของ Volvo กล่าวในเว็บคาสต์นักลงทุนรายไตรมาสล่าสุดว่าเขาเป็น “ผู้ศรัทธาอย่างมากในรถยนต์ไฟฟ้า” โดยกล่าวว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป
“ระบบไฮบริดจะสามารถสร้างสะพานที่มั่นคง สําหรับลูกค้าของเราที่ไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ” Jim กล่าวเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม
“ปลั๊กอินไฮบริดและไฮบริดของเรายังคงแข็งแกร่ง เป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าของเรา และเราจะลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่อไป”
แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับแผนของบริษัทบอกกับ Automotive News ว่าในทศวรรษหน้า Volvo จะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาปลั๊กอินไฮบริดแทน ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตเต็มที่ในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ
อันที่จริง พวกเขากล่าวว่า ตัวแทนจําหน่าย Volvo ในสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะขายรถยนต์ไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยน้ํามันเบนซินได้ดีในปี 2030
Volvo ได้ทุ่มเทให้กับอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 ตามที่ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ Bjorn Annwall เน้นย้ำในตอนแรก พร้อมยืนยันอีกครั้งโดย CEO Jim Rowan แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงนี้ Jim ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยสังเกตความต้องการที่แข็งแกร่งสําหรับรุ่นไฟฟ้าของ Volvo โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดระดับพรีเมียมที่อาจจะมีความต้องการน้อยกว่า
ในออสเตรเลีย Volvo ยังคงผลักดันไปสู่เป้าหมายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าจนถึงปี 2026 โดยจะนําเสนอรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดเต็มรูปแบบ ในท้องถิ่น โฆษกเน้นย้ำถึงความสามารถในการปรับตัวของ Volvo ให้เข้ากับสภาวะตลาด ในขณะที่ยืนยันความเชื่อของบริษัทในการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นอนาคต
ยุโรปได้เห็นยอดขายที่แข็งแกร่งสําหรับรุ่นไฟฟ้าของ Volvo โดย EX30 กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 3 อย่างรวดเร็ว ส่วนรุ่นไฮบริดของ Volvo เช่น XC60 PHEV ยังคงได้รับความนิยม แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่สําคัญในโหมดไฟฟ้า
การปรับกลยุทธ์โดย Volvo นี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ อย่าง Aston Martin, Volkswagen และ Mercedes เองก็ยังต้องกลับมาประเมินแผนรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาใหม่
ที่มา : DRIVE.au