Small Sports Car (SSC) เป็นแบรนด์รถสปอร์ตไฟฟ้า ที่มีทาง Xiaomi ได้เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทนี้ด้วย และล่าสุดรถสปอร์ตไฟฟ้าทรงโรดสเตอร์ 2 ประตู 2 ที่นั่ง รุ่นแรก ในชื่อรุ่น SC-01 ได้ออกจากสายผลิตอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มจำหน่ายในจีน ภายในปี 2024 นี้
รถสปอร์ตไฟฟ้า SSC SC-01 ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Xiaomi ได้ออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมราคาพรีเซลล์ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.48 ล้านบาท)
Small Sports Car (SSC) เป็นแบรนด์รถสปอร์ตไฟฟ้าที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2022 ก่อตั้งโดยบริษัทสตาร์ทอัพ ที่ทำการปรับแต่งรถยนต์ โดยผู้ก่อตั้งชื่อ Feng Xiaotong ได้ทำช่อง YouTube ชื่อ China Car Custom อีกด้วย ตั้งแต่ปี 2018 ต่อมา Xiaomi ได้เข้ามาลงทุนหลายสิบล้านหยวนในบริษัทนี้ และ Liu Dezheng ผู้ร่วมก่อตั้ง Xiaomi ได้เป็นหนึ่งในกรรมการในบริษัทนี้อีกด้วย
ย้อนกลับไปในวันที่ 26 กันยายน 2022 บริษัท Tianjin Gongjiangpai Auto Technology ได้ประกาศว่า ด้วยประสบการณ์ในการดัดแปลงรถยนต์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Xiaomi และพวกเขาจะสร้างรถสปอร์ตไฟฟ้าของตัวเองในรูปแบบ Roadster ในชื่อว่า “SSC SC-01”
ในชื่อ SSC SC-01 ย่อมาจากคำว่า Small Sports Car โดย SC-01 จะเป็นลำดับของผลิตภัณฑ์ โดยล่าสุดทางบริษัทได้ผลิตรถสปอร์ตสีขาวคันแรก ออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยรูปแบบรถสปอร์ตไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ที่มีราคาพรีเซลล์ 300,000 หยวน (42,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.48 ล้านบาท) และจะเริ่มจำหน่ายในจีน ภายในปี 2024 นี้
ดีไซน์ภายนอก SSC SC-01
- มิติตัวรถ 4,105 x 1,830 x 1,160 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,500 มม.
- น้ำหนักรถ 1,370 กก.
- มีจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำ เพียง 380 มม.
- โครงสร้างตัวรถใช้แบบ Chromium-molybdenum steel tube เพื่อให้ได้น้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ
- แบตเตอรี่วางในเลย์เอาต์ กลางตัวรถ เพื่อให้ได้น้ำหนักรถที่เบา
SSC SC-01 เป็นรถโรดสเตอร์ไฟฟ้า 2 ประตู 2 ที่นั่ง ขนาดเล็ก พร้อมสไตล์รถสปอร์ตทั่วไป มีไฟหน้าที่เฉียบคม พร้อมกระจกบังลมด้านหน้าทรงโค้ง เพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน และเพิ่มประสิทธิภาพของหลักแอโรไดนามิกให้ดีขึ้น เสา C ดีไซน์ลาดเอียง และไฟท้ายทรงกลม
โครงสร้างตัวรถใช้แบบ Chromium-molybdenum steel tube เพื่อให้ได้น้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ
SSC SC-01 มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีเหลือง ด้านหน้า 6 พอต ด้านหลัง 4 พอต จับคู่กับจานเบรกขนาด 350 มม. ทาง SSC อ้างว่า ระบบเบรกของพวงเขาดีกว่า Porsche 911 GT3 ข้อต่อบังคับเลี้ยวทำจากวัสดุอลูมิเนียม นอกจากนี้ยังมีโช้คอัพในแนวนอนอีกด้วย พร้อมยาง Michelin Pilot Sport CUP 2 245/40 R18
ข้อต่อบังคับเลี้ยวทำจากวัสดุอลูมิเนียม
(ซ้าย) SC-01 (ขวา) Porsche 911
(ซ้าย) SC-01 (ขวา) Porsche 911
ขุมพลัง
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น SSC SC-01 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 320 kW หรือ 425 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร พร้อมชุดแบตเตอรี่ NMC ความจุ 60 kWh ตัวแบตเตอรี่มีความหนาแน่นของพลังงานอยู่ที่ 160Wh/kg ตัวรถรองรับการชาร์จจาก 30-80% ในเวลา 25 นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.5 วินาที ตัวรถยังรองรับโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และโหมดสปอร์ต พร้อมการปรับอัตโนมัติ มอเตอร์จะมีการใช้เทคโนโลยีการจัดการระบายความร้อนแบบ Active ซึ่งจะเป็นระบบระบายความร้อนแบบเดียวกันกับระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ และรถคันนี้สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 520 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
ดีไซน์ภายใน
ในส่วนภายในของ SSC SC-01 นั้น จะมาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาดใหญ่ และพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตแบบ 3 ก้าน ทรงท้ายตัด ส่วนคอนโซลกลางจะไม่มีที่วางแขน จะมีแค่ตัวเลือกเกียร์แบบหมุน, สวิตช์กระจกไฟฟ้า และเบรกมือแบบดึง ถัดขึ้นมาบนเพดานภายในรถ จะมีปุ่มทางกายภาพเป็นแถวแนวยาว เพื่อปรับโหมดการขับขี่, ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้า และระบบ V2L ฯลฯ (แต่แอบใช้ยากไปหน่อย) ส่วนคอนโซลหน้าจะไม่มีหน้าจอกลาง แต่มีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแทน และเบาะที่นั่งมาในทรง Bucket Seat
เมื่อสังเกตตำแหน่งของแบตเตอรี่รถยนต์แล้ว จะพบว่ามีการกระจายน้ำหนักของตัวรถ คล้ายกับรถสปอร์ตที่มีเครื่องยนต์วางกลาง เช่น Lotus Elise และ Toyota MR2 ทั้งนี้การวางแบตเตอรี่ไว้ตรงกลาง เพื่อให้มีการกระจายน้ำหนักที่สมดุลที่สุด ช่วยให้ตัวรถเข้าโค้งได้ดี มี Handling ที่ดี
บริษัท Tianjin Gongjiangpai Auto Technology ได้รับเงินทุนจำนวนมากจาก Xiaomi เนื่องจาก Xiaomi SU7 จะผลิตโดย BAIC จึงมีผู้สันนิษฐานว่า SSC SC-01 อาจถูกสร้างขึ้นโดย BAIC ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทีมผู้พัฒนา และมีราคาพรีเซลล์ที่ 300,000 หยวน (42,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.48 ล้านบาท) จะสามารถดึงดูดความสนใจได้มากเท่ากับ MG Cyberster ที่มีราคาใกล้เคียงกันหรือไม่ ? ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
ที่มา : CarNewsChina (1), CarNewsChina (2)
ขอบคุณภาพ : Weibo