ในโอกาสครบรอบ 15 ปีของแบรนด์ Xiaomi ซีอีโอ Lei Jun ได้เปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ชื่อว่า Xiaomi YU7 ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Xiaomi ในการเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ ต่อเนื่องจากความสำเร็จของรถยนต์ซีดาน Xiaomi SU7 ที่มียอดส่งมอบไปแล้วกว่า 258,000 คันทั่วโลก
เปิดตัว Xiaomi YU7 รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นแรก เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.23 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 835 กม. คู่แข่ง New Model Y
Xiaomi YU7 เป็นรถ SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Modena ของ Xiaomi โดยมีขนาดความยาว 4,999 มม. กว้าง 1,996 มม. สูง 1,608 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,000 มม.
เทียบกับคู่แข่งอย่าง New Model Y มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย (ความยาว 4,797 มม. กว้าง 1,920 มม. และสูง 1,624 มม. ระยะฐานล้อ 2,890 มม.)
รถรุ่นนี้มีให้เลือกถึง 9 สี เช่น Emerald Green, Lava Orange, Titanium Silver เป็นต้น โดยสี Emerald Green เป็นสีใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากมรกตของประเทศโคลอมเบีย ที่มีชื่อเสียงเรื่องความสดใสและความบริสุทธิ์ของสี ซึ่ง Xiaomi ใช้กระบวนการพ่นสีแบบสองชั้นเพื่อให้ได้พื้นผิวและเฉดสีที่มีความลึกและเงางาม
นอกจากนี้ สี Emerald Green ยังเป็นสีที่มีความอิ่มตัวสูง และเปลี่ยนเฉดได้ตามแหล่งแสงที่ตกกระทบ ซึ่ง Xiaomi มองว่าสีนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความงามทางอุตสาหกรรมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
น้ำหนักตัวรถขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย อยู่ระหว่าง 2,140 – 2,460 กิโลกรัม โดยมีล้อให้เลือกขนาด 19 นิ้ว และ 20 นิ้ว
การออกแบบภายนอกและภายในของ Xiaomi YU7
Xiaomi YU7 ใช้มือจับประตูแบบพับเข้าไฟฟ้าพร้อมไฟตกแต่งรอบขอบ และรองรับเทคโนโลยี UWB (Ultra Wideband) ที่สามารถปลดล็อกรถและเปิดฝากระโปรงหลังผ่านสมาร์ทโฟนได้
ภายในมาพร้อมพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ทรงท้ายตัด คล้ายกับรุ่น SU7 Ultra โดยคันเกียร์อยู่บนคอพวงมาลัย ส่วนคอนโซลกลางออกแบบเน้นความเรียบง่าย พื้นผิวที่ดูสะอาดตา และบริเวณตรงกลางยังมีแท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน 2 จุด
ภายในตกแต่งด้วยหนังทั้งคัน เบาะหน้าหุ้มหนัง Nappa และเป็นแบบ Zero gravity ที่ปรับเอนได้ถึง 123 องศา พร้อมระบบนวด 10 จุด ส่วนเบาะหลังสามารถปรับเอนไฟฟ้าได้ถึง 135 องศา และมีหน้าจอควบคุมระบบแอร์ เพลง และระบบนำทางขนาด 6.68 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ภายในมาพร้อม 3 สี ได้แก่ สีเทา สีส้ม และสีน้ำเงิน
หน้าจอ HyperVision หนึ่งไฮไลต์เด่นสำหรับภายใน
บริเวณแผงหน้าปัดมาพร้อมหน้าจอ Mini LED ขนาดกว้างถึง 1.1 เมตร ที่ Xiaomi เรียกว่า HyperVision เป็นจอแบบพาโนรามาที่ฉายภาพไปยังกระจกหน้าด้านล่าง ทำหน้าที่คล้ายกับหน้าจอ HUD ขนาดใหญ่ ให้ความคมชัดระดับ Retina (108 PPD) แสดงข้อมูลการขับขี่ สื่อภาพ เสียง และภาพมุมอับ พร้อมระบบวิดเจ็ตที่ปรับแต่งได้ เช่น แสดงข้อมูลด้านพลังงาน ความเร็ว ระบบนำทาง และคำแนะนำจากระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ (ADAS)
ข้อดีของ HyperVision คือการแสดงภาพในตำแหน่งที่อยู่ห่างจากสายตาผู้ขับ ทำให้รู้สึกเหมือนแสดงผลลอยอยู่ตรงหน้า ส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และยังทำให้ Xiaomi ตัดหน้าจอเรือนไมล์แบบเดิมได้เลย
Xiaomi YU 7 ยังมาพร้อมคอนโทรลเลอร์รวม 4-in-1 ที่ควบรวมระบบห้องโดยสาร การขับขี่อัตโนมัติ การควบคุมตัวรถ และระบบสื่อสาร ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 ขนาด 4Nm ที่เร็วและแลง สามารถบูธระบบได้ภายใน 1.35 วินาที และอัปเดตแบบ OTA ได้ในเวลาเพียง 15 นาที
รุ่นย่อยของ Xiaomi YU7 ข้อมูลด้านสมรรถนะและแบตเตอรี่
Xiaomi YU7 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ YU7 RWD, YU7 Pro AWD และ YU Max AWD
คุณสมบัติ | YU7 RWD | YU7 Pro AWD | YU7 Max AWD |
---|---|---|---|
ระบบขับเคลื่อน | ล้อหลัง (RWD) | ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) | ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) |
กำลังมอเตอร์รวม | 235 kW | 365 kW | 508 kW (หน้า 220 + หลัง 295) |
แรงบิด | 528 Nm | 690 Nm | 866 Nm |
อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. | 5.88 วินาที | 4.27 วินาที | 3.23 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 240 กม./ชม. | 240 กม./ชม. | 253 กม./ชม. |
ความจุแบตเตอรี่ | 96.3 kWh (LFP) | 96.3 kWh (LFP) | 101.7 kWh (NCM) |
ระยะทางวิ่ง (CLTC) | 835 กม. | 770 กม. | 760 กม. |
ระบบชาร์จเร็ว | 800V SiC Platform, 5.2C ชาร์จได้สูงสุด 620 กม. ใน 15 นาที |
มอเตอร์ทุกรุ่นจัดหาโดย United Automotive Electronics (UAES) โดยรุ่น Max ใช้มอเตอร์หน้า 220 กิโลวัตต์ และมอเตอร์หลัง 295 กิโลวัตต์ ทั้งหมดใช้ระบบไฟแรงสูง 800V แบบซิลิคอนคาร์ไบด์ของ Xiaomi และมอเตอร์ V6s Plus ที่รองรับการชาร์จเร็วระดับ 5.2C เพิ่มระยะทางได้ถึง 620 กม. ภายใน 15 นาที
ความปลอดภัยและโครงสร้างตัวรถ
ตัวรถเสริมความแข็งแรงด้วยโครงเหล็ก Ultra-high-strength steel 2200 MPa ที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรด้านวิชาการ มีโครงหน้าอลูมิเนียมหล่อแบบชิ้นเดียว 20 จุด และโครงสร้างตัวถังแบบผสมเหล็ก-อลูมิเนียมที่เรียกว่า Armour cage ด้านแบตเตอรี่มีตัวหุ้มพิเศษทนต่อกระสุน
Xiaomi ยังได้ทดสอบความปลอดภัยแบบไม่ใช้ระบบช่วยขับขี่กว่า 50 รายการ เสา A และ B ก็ได้รับการเสริมความแข็งแรงด้วย
ระบบขับขี่อัตโนมัติและเซนเซอร์
Xiaomi YU7 ทุกรุ่นมาพร้อม Lidar, ชิป Nvidia Drive AGX Thor (700 TOPS), เรดาร์ 4D mmWave และกล้องเคลือบพิเศษป้องกันแสงสะท้อน (ALD-coated) ใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติที่พัฒนาโดย Xiaomi เองแบบครบวงจร ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนารถยนต์ของบริษัท
ก่อนหน้านี้ Xiaomi YU7 มีแผนเปิดตัวที่งาน Shanghai Auto Show ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับรถทดสอบไร้คนขับของบริษัท หลังเหตุการณ์ดังกล่าว Xiaomi ได้ทำการทบทวนนโยบายความปลอดภัยและการสื่อสารกับสาธารณะอย่างเข้มงวด ก่อนกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
Xiaomi YU7 ถือเป็นรถรุ่นที่น่าสนใจในตลาดจีน เนื่องจากเป็นคู่แข่งหลักของ New Tesla Model Y ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในจีน โดยราคาของ Xiaomi YU7 จะประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม ปี 2025 แต่ซีอีโอยืนยันว่าราคาขั้นต้นที่มีข่าวลือว่าจะเริ่มต้นที่ 199,000 หยวน (ประมาณ 900,000 บาท) นั้น ไม่เป็นความจริง ก็รอติดตามกันต่อไป
ที่มา carnewschina