ใน , ,

Xpeng เปิดตัว G7 รถ SUV สุดล้ำ พร้อมชิประบบขับขี่อัจฉริยะ L3 เริ่ม 880,000 บาท ทำยอดจอง 10,000 คันใน 9 นาที

3 มิ.ย. 2025, Xpeng ได้เปิดตัวรถยนต์ SUV ไฟฟ้า Xpeng G7 อย่างเป็นทางการ หลังเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รถรุ่นนี้มาพร้อมพลังการประมวลผลการขับขี่อัจฉริยะ รองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ L3 โดย G7 เป็นคู่แข่งหน้าใหม่ที่สำคัญของ Tesla Model Y

Xpeng เปิดตัว G7 รถ SUV สุดล้ำ พร้อมชิประบบขับขี่อัจฉริยะ L3 เริ่ม 880,000 บาท ทำยอดจอง 10,000 คันใน 9 นาที

Xpeng เปิดตัว G7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นรุ่นใหม่รุ่นแรกของปี โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 195,800 หยวน (ประมาณ 880,000 บาท) ราคานี้ต่ำกว่าราคาเริ่มต้น 235,800 หยวน (ประมาณ 1.06 ล้านบาท) ที่ G7 เริ่มเปิดให้จองเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน

และมีราคาต่ำกว่า Tesla Model Y ในจีนถึง 67,700 หยวน (ประมาณ 300,000 บาท) หรือ 25.69% ซึ่ง Model Y มีราคาเริ่มต้นที่ 263,500 หยวน (ประมาณ​1.19 ล้านบาท)

Xpeng G7 มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 602 Max, 702 Max และ 702 Ultra โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 195,800 หยวน, 205,800 หยวน และ 225,800 หยวน ตามลำดับ

ขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า Model Y

Xpeng G7 เป็นรถ SUV ขนาดกลาง มีความยาว 4,892 มม. กว้าง 1,925 มม. และสูง 1,655 มม. ระยะฐานล้อ 2,890 มม. ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า Model Y ที่มีความยาว 4,797 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,624 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,890 มม.

พลังการประมวลผลอัจฉริยะระดับสูง

Xpeng G7 เป็นรถคันแรกของแบรนด์ที่ติดตั้งชิปขับขี่อัจฉริยะ Turing AI ของ Xpeng โดยมีกำลังการประมวลผลสูงสุดถึง 2,250 TOPS ทำให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่มีกำลังการประมวลผลการขับขี่อัจฉริยะสูงสุดในปัจจุบัน

ด้วยกำลังการประมวลผลนี้ G7 จะรองรับโมเดลขนาดใหญ่ VLA (Vision-Language-Action) + VLM (Vision-Language Models) ทำให้เป็นรถยนต์ AI คันแรกที่มีกำลังการประมวลผลระดับ L3

โมเดลขนาดใหญ่ VLA ช่วยให้รถมีความสามารถในการคิดเชิงรุกและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว สามารถจัดการกับสถานการณ์การขับขี่ต่าง ๆ เช่น การกำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดแบบเรียลไทม์

ส่วนโมเดลขนาดใหญ่ VLM ได้กำหนดนิยามใหม่ของห้องโดยสารอัจฉริยะเจเนอเรชันถัดไป ด้วยกำลังการประมวลผล AI ที่สูงกว่ารุ่นเรือธงในปัจจุบันถึง 26 เท่า ทำให้สามารถตรวจจับและให้บริการเชิงรุกได้

Xpeng G7 รุ่น Ultra มาพร้อมกับชิป Turing 3 ตัว โดย 2 ตัวใช้สำหรับการขับขี่อัจฉริยะ และอีกหนึ่งตัวสำหรับบริการในห้องโดยสาร สำหรับรุ่น Max ทั้ง 2 รุ่นติดตั้งชิป Nvidia Orin X 2 ตัว ให้กำลังการประมวลผล 508 TOPS

นอกจากนี้ G7 ยังมีระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (AR-HUD) ที่พัฒนาร่วมกับ Huawei รวมถึงแชสซี AI ที่มีฟังก์ชันพรีวิว

แบตเตอรี่และการชาร์จที่รวดเร็ว

Xpeng G7 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มแรงดันสูง 800V และใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) ที่รองรับอัตราการชาร์จ 5C รุ่นพื้นฐานสามารถวิ่งได้ 602 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) ส่วนอีก 2 รุ่น สามารถวิ่งได้ 702 กม. และสามารถชาร์จจาก 0 – 80% ได้ในเวลาเพียง 12 นาที

สมรรถนะของ Xpeng G7

Xpeng G7 มาพร้อมกับมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังเป็นมาตรฐาน ให้กำลังสูงสุด 218 kW และแรงบิดสูงสุด 450 Nm อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.5 วินาที รถ SUV รุ่นนี้คาดว่าจะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งอีกรายของ Model Y ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับ Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนมากขึ้น

ตลาดและเป้าหมายของ Xpeng

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Xiaomi ได้เปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้า YU7 และได้รับคำสั่งซื้อถึง 200,000 รายการภายใน 3 นาทีแรก ทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Model Y และเปิดตัว Xpeng G7 นี้ก็คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งคู่แข่งของ Tesla และ Xpeng เองก็คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทสูงขึ้น

จากรายงานหลังการเปิดตัวพบว่า Xpeng G7 ได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 10,000 คันใน 9 นาทีแรก และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Xpeng จะสามารถส่งมอบ G7 ได้ประมาณ 55,000 คันในช่วงครึ่งหลังปีนี้

Xpeng ส่งมอบรถยนต์ 34,611 คันในเดือนมิถุนายน ทำให้ยอดส่งมอบในช่วงครึ่งแรกของปีอยู่ที่ 197,189 คัน เพิ่มขึ้น 279.01% เมื่อเทียบรายปี แซงหน้ายอดส่งมอบรวมทั้งปี 2024 ที่ 190,068 คัน

เป้าหมายของ Xpeng คือการเพิ่มปริมาณการส่งมอบเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2024 และดูเหมือนว่าเป้าหมายนี้จะสามารถทำได้ง่าย ทำให้ Xpeng เป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่รายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายประจำปีได้

ที่มา cnevpost

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.