หลังจากที่เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด Xpeng ก็ได้เปิดตัวรถ MPV ไฟฟ้า X9 รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 359,800 หยวน หรือประมาณ 1.63 ล้านบาท Xpeng ระบุว่ารุ่นปี 2025 นี้มีการอัปเกรดมูลค่ารวมกว่า 80,000 หยวน เพื่อยกระดับความสะดวกสบาย เทคโนโลยี และความสามารถในการขับขี่อัจฉริยะ
เปิดตัว Xpeng X9 รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการ อัปเกรดความสะดวกสบายขั้นสุด เริ่มต้น 1.63 ล้านบาท
Xpeng X9 ใหม่พัฒนาขึ้นเพื่อ “ความสบายสูงสุด”
Xpeng ใช้เผยว่า X9 รุ่นใหม่นี้ “พัฒนาเพื่อความสบายสูงสุดอย่างเต็มรูปแบบ” โดยได้เพิ่มวัสดุแบบสัมผัสนุ่มอีก 3.2 ตารางเมตร ทำให้มีวัสดุประเภทนี้รวมถึง 26.6 ตารางเมตร ภายในรถยังมีการปรับรายละเอียดปุ่มควบคุมและขอบต่าง ๆ ให้ดูหรูหราขึ้นด้วยการเคลือบแบบสูญญากาศ PVD
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือเบาะ Zero-Gravity ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีของ NASA ซึ่งกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับแถวที่ 1 และ 2 โดยเบาะนี้ช่วยลดแรงกดที่สะโพกได้ 22% ลดแรงที่ข้อต่อสะโพก 36% ลดแรงที่ช่วงเอว 60% และลดแรงกดที่กระดูกสันหลังอีก 13% พร้อมระบบนวด 10 จุดเป็นมาตรฐาน และสามารถอัปเกรดเป็นแบบ 16 จุดได้
การเข้าถึงและพื้นที่แถวสาม
ปัญหาที่มักพบในรถ MPV คือ ความยากในการเข้าไปนั่งแถวสาม ซึ่ง Xpeng ก็ได้ปรับแก้ไขในรถรุ่นใหม่นี้ โดยการออกแบบให้ทางเดินตรงกลางเชื่อมกับเบาะ Zero-Gravity แถวที่สอง ทำให้เข้าออกสะดวกมากขึ้น ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้สอยถึง 7.7 ตารางเมตร ความสูงภายใน 1,360 มม. และทางเดินกว้าง 165 มม. เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีสามารถเดินเล่นในรถได้อย่างอิสระ
แถวที่สามก็ได้รับการพัฒนาเช่นกัน ด้วยพนักพิงหลังและหมอนรองศีรษะแบบปรับไฟฟ้าได้ สามารถพับเรียบได้เต็มที่ โดย Xpeng อ้างว่าพื้นที่แถวสามนี้กว้างเทียบเท่าเบาะแถวสองของ Mercedes-Benz GLE
เทคโนโลยีและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น
Xpeng X9 มาพร้อมประตูแบบดูด Soft-close เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับแถวแรก หน้าจอความบันเทิงขนาด 21.4 นิ้วด้านหลังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าป้องกันแสงสีฟ้า และสามารถปรับเอียงได้ 0-75 องศา
นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟ 220V, ระบบคาราโอเกะไร้ไมโครโฟน, ตู้เก็บอุณหภูมิที่ทำความเย็นและอุ่นได้ ขนาด 10.8 ลิตร, แอร์ล้อมรอบห้องโดยสาร และระบบพับเบาะแถวสามด้วยไฟฟ้าเพียงปุ่มเดียว
ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
ด้านระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง Turing AI เป็นมาตรฐานที่มาพร้อมกับทุกรุ่น และมีการพิ่มระบบใหม่ที่เรียกว่า Little Blue Light เพื่อช่วยสื่อสารการทำงานของระบบกับผู้โดยสารได้ดีขึ้น
สมรรถนะและการขับขี่ที่นุ่มนวล
Xpeng X9 รุ่นใหม่นี้ยังคงมาพร้อมระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังแบบแอคทีฟ ทำให้รัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.4 เมตร เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ซึ่ง Xpeng ใช้โมเดล AI ขนาดใหญ่ในการจำลองและปรับจูนช่วงล่างให้ขับสบาย นอกจากนี้ ยังมีอัลกอริทีมใหม่ 6D ป้องกันการเมารถ ที่ช่วยลดอาการโคลงเวลาเข้าโค้งหรือเจอทางขรุขระ
Xpeng เผยว่า บริษัทยังมีการลงทุนในการพัฒนาด้านการลดเสียง การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) โดยการลงทุนกว่า 50 ล้านหยวน โดยเฉพาะในการปรับปรุง NVH จำนวน 58 รายการสำหรับรุ่นปี 2025 โดยมุ่งเป้าไปที่ “ความเงียบระดับล้านหยวน” ซึ่งการลงทุน NVH โดยรวมของบริษัทนั้นเกิน 500 ล้านหยวนแล้ว
ระบบส่งกำลังและดีไซน์ภายนอก
Xpeng X9 ปี 2025 ใช้สถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 800V มีตัวเลือกแบตเตอรี่ 2 แบบ ได้แก่ แบตเตอรี่ NMC ความจุ 105 kWh และแบตเตอรี่ LFP ความจุ 94.8 kWh
รุ่นเริ่มต้นใช้แบตเตอรี่ LFP ความจุ 94.8 kWh ให้ระยะทาง 650 กม. (CLTC) รองรับการชาร์จ 5C ชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 11.7 วินาที
ส่วนอีก 3 รุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ NMC ความจุ 105 kWh ให้ระยะทาง 702 – 740 กม. (CLTC) รองรับการชาร์จ 3C สามารถชาร์จจาก 10 – 80% ภายใน 20 นาที
รุ่นเริ่มต้น 2 รุ่น ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) มอเตอร์เดี่ยว มีกำลังมอเตอร์สูงสุด 235 kW แรงบิดสูงสุด 450 Nm อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.7 วินาที
ส่วนอีก 2 รุ่นที่สูงกว่า ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) โดยเพิ่มมอเตอร์ด้านหลังเข้ามาอีก มีกำลังสูงสุด 135 kW แรงบิดสูงสุด 190 Nm อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม.ในเวลา 5.7 วินาที
ภายนอกมีสีใหม่ให้เลือก ได้แก่ Nebula Purple, Galaxy Blue, and a Matte Starship Gray, joining the existing Starship Gray, Nebula White, New Moon Silver และ Midnight Black
Xpeng X9 มาพร้อมล้อ Star Gaze ขนาด 20 นิ้ว มีฝาครอบกลางล้อแบบหมุนตามแรงเฉื่อย
เจาะตลาดรถ MPV ไฟฟ้าระดับพรีเมียม
การเปิดตัว Xepng X9 รุ่นใหม่ครั้งนี้ สะท้อนกลยุทธ์ของ Xpeng ที่ต้องการสร้างผู้นำในกลุ่มตลาดสำคัญ โดยในไตรมาสแรกปี 2025 Xpeng ทำยอดส่งมอบรถได้ถึง 94,008 คัน ซึ่งสูงสุดในกลุ่มสตาร์ทอัพรถ EV จีน ด้วยโมเดลหลักอย่าง MONA M03 และ Xpeng G6
ตลาด MPV ในจีนกำลังเปลี่ยนไปสู่รถระดับพรีเมียมที่เน้นครอบครัวและพลังงานไฟฟ้า แม้รุ่นดั้งเดิมอย่าง Buick GL8 และ Toyota Sienna/Granvia ยังได้รับความนิยม แต่รุ่นใหม่อย่าง Denza D9, ZEEKR 009 และ BYD Xia ก็เริ่มแย่งส่วนแบ่งในตลาดรถพลังงานใหม่ (NEV)
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม MPV ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนยังมีคู่แข่งไม่มากนัก ทาง Xpeng จึงมองว่า Xpeng X9 ที่เน้นความอัจฉริยะและพลังงานไฟฟ้าจะสามารถเป็นผู้นำได้ ไม่ใช่แค่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แต่เป็นการเปลี่ยนแนวคิดด้านนวัตกรรมตามสถานการณ์ใช้งาน ซึ่งจะเปิดโอกาสใหม่ให้กับแบรนด์พรีเมียมสัญชาติจีน
รายละเอียดรุ่นและราคาของ Xpeng X9
- Xpeng X9 Long Range Max: ระยะทาง 650 กม. ราคา 359,800 หยวน (1.63 ล้านบาท)
- Xpeng X9 Ultra Long Range Max: ระยะทาง 740 กม. ราคา 379,800 หยวน (1.72 ล้านบาท)
- Xpeng X9 AWD Performance Max: ระยะทาง 702 กม. ราคา 399,800 หยวน (1.81 ล้านบาท)
- Xpeng X9 Starship Edition (รวมอุปกรณ์ครบ): ระยะทาง 702 กม. ราคา 419,800 หยวน (1.9 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ Xpeng ได้เปิดพรีออร์เดอร์ Xpeng X9 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 399,800 หยวน ซึ่งแพงกว่ารุ่นปี 2024 ถึง 40,000 หยวน แต่ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น Xpeng ยังคงวางจำหน่ายในราคาเท่ารุ่นเดิม
การอัปเกรดสำหรับเจ้าของรุ่นเดิม
Xpeng ยืนยันว่าเจ้าของ Xpeng X9 รุ่นปี 2024 ก่อนหน้านี้ จะสามารถเลือกอัปเกรดบางฟีเจอร์ได้ เช่น การเก็บเสียงที่ดีขึ้น, ทางเดินตรงกลางแบบใหม่, เบาะ Zero-Gravity รุ่นใหม่ และระบบ AI ADAS Little Blue Light
Xpeng X9 รุ่นปี 2025 ใหม่ ได้วางจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว และจะเปิดตัวในยุโรปครึ่งหลังปี 2025 ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า Xpeng X9 ในไทยที่ซื้อรุ่นเดิมไปแล้วนั้นจะสามารถอัปเกรดได้ด้วยหรือไม่ และรุ่นใหม่นี้จะนำมาวางขายในไทยด้วยหรือไม่
ที่มา carnewschina, cnevpost