เปิดตัว Aston Martin Valhalla 2025 ไฮเปอร์คาร์เครื่องวางกลาง คู่แข่งโดยตรงสำหรับไฮเปอร์คาร์อย่าง Ferrari F80 และ McLaren W11
Aston Martin Valhalla จบปีด้วยไฮเปอร์คาร์แรง 1,064 ม้า!
Aston Martin Valhalla ไม่ได้เหมือนกับรถคอนเซปต์รหัส AM-RB003 ที่ได้เปิดตัวในปี 2019 ย้อนกลับไปในปี 2019 Aston Martin เผยแผนการผลิตซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางรุ่นใหม่ 2 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นคือ Valhalla ที่เริ่มต้นการพัฒนาอย่างมุ่งมั่นร่วมกับ Adrian Newey จาก Red Bull Racing
พร้อมแผนใช้เครื่องยนต์ V6 ไฮบริดที่พัฒนาขึ้นเอง ภายใต้การบริหารใหม่ของ Lawrence Stroll และ Tobias Moers อดีตหัวหน้า AMG แผนเดิมถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง โดย Valhalla รุ่นผลิตจริงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ของแบรนด์
การพัฒนาเครื่องยนต์และระบบไฮบริด
จากเดิมที่เคยวางแผนใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ที่ Aston Martin พัฒนาเอง แต่ Valhalla รุ่นผลิตจริงเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ขนาด 4.0 ลิตรจาก Mercedes-AMG GT Black Series พร้อมระบบไฮบริดที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว
- พลังเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ V8 ให้พละกำลัง 836 แรงม้า
- มอเตอร์ไฟฟ้า: เพิ่มกำลังอีก 248 แรงม้า (รวมทั้งหมด 1,064 แรงม้า)
- สมรรถนะ: อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 350 กม./ชม.
- โหมดปลั๊กอินไฮบริด: วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 14 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดด้วยไฟฟ้าล้วนที่ 130 กม./ชม.
การออกแบบโครงสร้างและเทคโนโลยี
Valhalla โดดเด่นด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเพียง 74 กิโลกรัม พร้อมช่วงล่างที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง F1
- ช่วงล่าง: ระบบ Pushrod เหมือนรถ F1 ด้านหน้า พร้อมระบบ 5-Link ด้านหลังพร้อมโช้ก Bilstein DTX
- แอโรไดนามิกส์:
- ปีกหลังแอคทีฟที่ยกตัวขึ้น 10 นิ้ว
- ระบบ Venturi Tunnel ช่วยสร้างแรงกดอากาศรวมกว่า 600 กิโลกรัมที่ความเร็ว 240 กม./ชม.
- น้ำหนักรวม: ต่ำกว่า 1,550 กิโลกรัม
- เบรก: ดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิกจาก Brembo ขนาด 16.1 นิ้วด้านหน้า และ 15.4 นิ้วด้านหลัง พร้อมระบบ Regenerative Braking
ภายในห้องโดยสาร
Valhalla ผสมผสานความหรูหราและกลิ่นอายของรถแข่ง F1
- ฟีเจอร์ภายใน:
- จอแสดงผลสำหรับข้อมูลรถและแผนที่
- ระบบเสียงจาก Bowers & Wilkins
- โหมดการขับขี่ 4 โหมด: EV, Sport, Sport+, Race
- การปรับแต่ง: ผู้ซื้อทั้ง 999 คันสามารถเลือกสีตัวถัง ลายคาร์บอนไฟเบอร์ และวัสดุตกแต่งภายในได้ตามความชอบ ผ่านแผนก Q ของ Aston Martin
กำหนดการเปิดตัวและราคา
Valhalla พร้อมส่งมอบในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ $800,000 (ประมาณ 28 ล้านบาท) การพัฒนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนภายใต้การบริหารของ Lawrence Stroll ซึ่ง Aston Martin ตั้งเป้าพลิกโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ล้ำสมัยทั้งในด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะ
Valhalla ไม่เพียงแต่เป็นซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์กลางที่แข็งแกร่งเทียบเท่าคู่แข่งอย่าง Ferrari, Lamborghini และ McLaren แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ถือเป็นการจบปีอย่างสวยงามด้วย Valhala ที่ทั้งสวยงามและสมรรถนะที่ล้ำหน้า!
ที่มา : Motortrend และ Car And Driver