Audi ยกเลิก RS6 e-tron Avant ส่วน Polestar ก็เลื่อนเปิดตัว Roadster ไฟฟ้าอย่าง Polestar 6 (อนาคตสปอร์ตไฟฟ้าไม่สดใส)
ตอนนี้รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ายังถือว่าขายได้ยาก เนื่องจากผู้ที่ชื่นชอบการขับหรือนักขับหลายคนยังหลงไหลในเสียง และแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์สันดาป เพราะรถ EV ไม่สามารถให้และมาแทนที่ได้ แม้จะมีเสียงเครื่องยนต์จำลองก็ตาม อีกทั้งกลุ่มผู้ซื้อรถสปอร์ตยังชอบเกียร์ธรรมดา แต่ EV ไม่รองรับสิ่งนี้ ความจริงดังกล่าวทำให้หลายค่ายต้องทบทวนแผนการพัฒนา ล่าสุด Polestar ประกาศเลื่อนการเปิดตัวรถโรดสเตอร์ไฟฟ้า ส่วน Audi ก็ได้ยกเลิก RS6 e-tron
Audi จะยังไม่มี Wagon ไฟฟ้าตัวแรง
Audi เพิ่งเปิดตัวรถซีดานไฟฟ้าขนาดกลางในสหรัฐฯในปีนี้ อย่าง A6 e-tron และ S6 e-tron โดยยังขายคู่กับ A6 เครื่องยนต์เบนซินต่อ รุ่น A6 e-tron มอเตอร์เดี่ยว พละกำลังได้ 375 แรงม้า ส่วนรุ่น Quattro ขับเคลื่อน 4 ล้อพละกำลังที่ 456 แรงม้า ส่วนตัวแรงอย่าง S6 e-tron ได้กำลังสูงสุดถึง 543 แรงม้า
ช่วงที่ผ่านมา มีข่าวลือว่า Audi จะพัฒนา RS6 e-tron ที่อาจรีดกำลังได้ทะลุ 800 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3 วินาที โดยมีโอกาสทำตลาดในรูปแบบ Avant เช่นเดียวกับ RS6 Avant เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งที่ปัจจุบัน Audi มี A6 e-tron Avant จำหน่ายอยู่แล้ว
แต่รายงานจาก Top Gear ก็ได้เผยว่า Audi ได้ยุติโครงการ RS6 e-tron แล้ว เนื่องจากความต้องการตลาดไม่เพียงพอ โฆษกของ Audi กล่าวเพียงว่า แบรนด์กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงบนแพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE)
แต่ RS6 จะกลับมาในรูปแบบวากอนเครื่องยนต์เบนซิน รุ่นใหม่เจเนอเรชันที่ 6 สำหรับปี 2026 คาดว่าจะยังใช้เครื่องยนต์ V8 และอาจมีระบบไฮบริดเสริม
Polestar ขอมุ่งพัฒนา SUV ก่อน
ส่วนฝั่งสวีเดน Polestar ตัดสินใจเลื่อนเปิดตัวโรดสเตอร์ไฟฟ้า Polestar 6 ที่ได้แรงบันดาลใจจากคอนเซ็ปต์ O2 ในปี 2022 โดย CEO Michael Lohscheller เปิดเผยกับ Autocar ว่าแบรนด์จะให้ความสำคัญกับ Polestar 7 SUV ขนาดเล็ก และรุ่นสืบทอดของ Polestar 2 มากกว่า
แม้ Polestar ยังมีแผนผลิตรุ่น 6 ที่ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Polestar 5 ซีดาน แต่เดิมคาดว่าจะมาในปี 2028 อาจเลื่อนไปถึงปี 2030 เลยก็เป็นได้ เพราะราคาก็ไม่ธรรมดา ตัวอย่างของ Polestar 5 เองก็มีราคาตั้งต้นประมาณ 135,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.9 ล้านบาท) และจะผลิตในจำนวนจำกัดเท่านั้น
ส่วน Polestar 7 และรุ่นใหม่ของ Polestar 2 จะถูกพัฒนาเป็นรถรุ่นขายจำนวนมาก ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างยอดขาย เพราะแบรนด์เผชิญความล่าช้าในการทำตลาด Polestar 3 SUV และ Polestar 4 SUV ในสหรัฐฯ รวมถึงยอดขายในจีนที่ลดลงอย่างมาก จนมีรายงานว่าอาจถอนตัวออกจากจีน แม้จะเป็นตลาด EV ใหญ่ที่สุดในโลก Polestar 7 จะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นด้วยราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น
ที่มา : Car And Driver