ใน ,

BYD พัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด (Hybrid) ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 10%

BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ได้ประกาศว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันในรถยนต์ไฮบริดได้สำเร็จ เพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านยอดขายที่ลดลงในกลุ่มไฮบริดนี้

BYD พัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด (Hybrid) ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 10%

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดช่วยให้ระบบไฮบริด DM (Dual Mode) รุ่นที่ 5 ของบริษัท สามารถลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเหลือเพียง 2.6 ลิตรต่อ 100 กม. เมื่อแบตเตอรี่หมด ซึ่งประหยัดขึ้น 10% จากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ 2.9 ลิตรต่อ 100 กม.

ผลการทดสอบนี้อ้างอิงตามมาตรฐาน NEDC และได้รับการรับรองจากศูนย์ตรวจสอบคุณภาพยานยนต์แห่งชาติเรียบร้อยแล้ว

BYD ระบุว่า การปรับปรุงประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันในครั้งนี้จะถูกส่งมอบให้กับรถยนต์ BYD ทุกรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด DM รุ่นที่ 5 ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบไร้สาย (OTA)

เทคโนโลยี DM 5.0 และยอดขายที่ชะลอตัว

BYD เปิดตัวเทคโนโลยีไฮบริด DM รุ่นที่ 5 (DM 5.0) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2024 โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า ซึ่งในตอนนั้นบริษัทได้ประกาศว่า เทคโนโลยี DM 5.0 มีประสิทธิภาพการเผาผลาญความร้อนของเครื่องยนต์สูงถึง 46.06% และสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 2,100 กม. ซึ่งมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไปถึง 3 เท่า

BYD launches sleek Qin L EV with smart tech for under $17,000

รถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยีนี้คือ BYD Qin L DM-i และ Seal 06 DM-i ซึ่งเปิดตัวพร้อมกัน สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 2,100 กม. เช่นกัน นับตั้งแต่นั้นมา รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ ๆ ของ BYD ทุกรุ่นก็ใช้เทคโนโลยีนี้ทั้งหมด

การปรับปรุงเทคโนโลยี DM 5.0 เกิดขึ้นในช่วงที่ยอดขายรถยนต์ไฮบริดของ BYD ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า BYD ขายรถยนต์ NEV ได้รวม 344,296 คันในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ลดลง 10.01% จากเดือนมิถุนายน

ยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ลดลงอย่างมาก โดยในเดือนกรกฎาคมขายได้ 163,143 คัน ลดลงถึง 22.61% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และลดลง 4.45% จากเดือนมิถุนายน ซึ่งนับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แล้ว และอัตราการลดลงก็เพิ่มขึ้นจาก 12.45% ในเดือนมิถุนายน

ในทางกลับกัน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ของ BYD ยังคงแข็งแกร่ง โดยขายได้ 177,887 คันในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 36.84% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ะลดลง 14.02% จากเดือนมิถุนายน

ที่มา cnevpost

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.