Nuttanon P.
จีนถือเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นสนามรบที่ดุเดือดที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนไม่สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้มากนัก มากกว่านั้นแบรนด์ดเจ้าใหญ่อย่าง BYD ก็ได้ปรับราคาอีกครั้งส่งผลให้การแข่งขันภายในประเทศทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
BYD ปรับราคา EV ครั้งใหญ่ จีนเข้าเฟสใหม่ของการแข่งขันสุดดุเดือด
ปัจจุบันอัตราการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในจีน (ทั้ง BEV และ PHEV) กำลังเข้าใกล้ 50% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด แต่สำหรับสหรัฐยังมีอัตราการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าต่ำกว่า 10% อยู่มากครับ
ทำให้เกิดคำถามที่หลายคนสงสัยคือจีนสามารถพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?
คำตอบคือ “ราคาที่ถูก”
จีนผ่านสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้ามาแล้วหลายระลอก ทำให้เกิดการกดราคาลงมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มสงบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ล่าสุด BYD ได้เริ่มสงครามราคาอีกครั้ง
BYD ประกาศลดราคารถยนต์หลายรุ่น
เมื่อไม่นานมานี้ BYD ได้ประกาศลดราคาหลายรุ่นของรถยนต์ไฟฟ้า:
-
BYD Seagull ลดราคาลงเหลือ 55,800 หยวน (ประมาณ 278,000 บาท) ลดลง 20% จากราคาก่อนหน้า รถรุ่นนี้เคยได้รับความสนใจทั่วโลกเพราะราคาต่ำกว่า $10,000
-
BYD Seal ได้ปรับลดราคาลงมามากที่สุด ลดลงถึง 53,000 หยวน (ประมาณ 264,000 บาท) ราคาสุดท้ายอยู่ที่ 102,800 หยวน (ประมาณ 513,000 บาท) หรือคิดเป็นการลดลงถึง 34%
หุ้น BYD และผู้ผลิต EV จีนรายอื่นร่วงตาม
หลังจากข่าวลดราคาดังกล่าว BYD พบว่าหุ้นของแบรนด์ลดลงสูงสุดถึง 8% ขณะเดียวกันผู้ผลิตรายอื่น ๆ อย่าง Li Auto และ Geely ก็ได้รับผลกระทบ หุ้นของทั้ง 2 แบรนด์ก็ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
BYD กลับมาสร้างแรงกดดันให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนอีกครั้งด้วยการลดราคาที่ไม่ธรรมดา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในอนาคตอันใกล้ และสะท้อนว่าราคาคือปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในตลาดจีน
Tesla เจอแรงกดดันเพิ่ม หลัง BYD จุดกระแส EV ในจีนอีกครั้ง
การลดราคาครั้งใหญ่ของ BYD ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ Tesla เองก็เคยใช้กลยุทธ์คล้ายกันในหลายประเทศ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด การกลับมาลดราคาอีกครั้งของ BYD ในจีนครั้งนี้ อาจกลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญต่อ Tesla ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นต่างชาติรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน
Tesla เสี่ยงกระทบหนักจากการแข่งขันครั้งใหม่ในจีน
แม้ว่า Tesla จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ระดับโลก แต่ในจีน Tesla เคยประสบปัญหาเรื่องกำไรมาแล้ว หลังจากจำเป็นต้องลดราคาครั้งใหญ่เพื่อแข่งขันกับแบรนด์จีนในการ “ทำสงครามราคาครั้งก่อนหน้า” ส่งผลให้ Tesla แทบไม่มีกำไรจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเลยในช่วงเวลานั้น
การที่ BYD เปิดเกมลดราคาอีกครั้งในตอนนี้จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับ Tesla อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่แบรนด์จีนรายใหม่ ๆ เริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกและเทคโนโลยีล้ำหน้าเข้ามาแข่งขันมากขึ้น
คู่แข่งใหม่ Xiaomi YU7 กำลังมาแรง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Xiaomi YU7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดัง Xiaomi ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์ล้ำสมัย สเปกคุ้มค่า และราคาที่น่าสนใจ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น
Tesla จึงไม่เพียงต้องรับมือกับ BYD เท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับแรงแข่งขันจากผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Xiaomi ที่อาศัยความได้เปรียบด้านต้นทุน และฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนยิ่งดุเดือดเข้าไปอีกครับ
ที่มา : Electrek
