ใน ,

พบ BYD Seal 06GT แฮทช์แบ็กรุ่นใหม่ วิ่งทดสอบบนถนนในจีน เตรียมเข้าสู่ตลาดโลกปี 2025 นี้

พบรถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตรุ่นใหม่ BYD Seal 06GT พรางตัววิ่งทดสอบในประเทศจีน ตัวถังหลายสี คาดว่าจะวางขายในจีนไตรมาส 3 นี้ และวางขายในตลาดโลกต้นปี 2025

พบ BYD Seal 06GT แฮทช์แบ็กรุ่นใหม่ วิ่งทดสอบบนถนนในจีน เตรียมเข้าสู่ตลาดโลกปี 2025 นี้

BYD Seal 06GT เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นถัดไปที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ e-platform 3.0 Evo ของ BYD รถรุ่นนี้มีตำแหน่งอยู่ระหว่าง Dolphin และ Seal ถือเป็นรถแฮทช์แบ็กที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ocean คาดว่าราคาอยู่ที่ประมาณ 150,000 ถึง 200,000 หยวน มีกำหนดเปิดตัวในตลาดจีนไตรมาสที่ 3 ปีนี้

ก่อนหน้านี้ภาพ Spyshot เผยให้เห็นรถที่มีตัวถังสีฟ้า แต่ล่าสุดเห็นได้ว่ามีตัวถังสีเขียว สีดำ และสีส้ม ให้เลือกด้วย

Seal 06GT เป็นรถเวอร์ชันผลิตของแนวคิด BYD Ocean-M ด้านหน้าใช้ดีไซน์แบบปิด กันชนสามส่วน ตกแต่งลายรังผึ้งสีดำ และมีช่องอากาศรูปตัว L โดยรวมแล้วการออกแบบด้านหน้าดูเรียบง่ายและหรูหรา

ด้านข้างมาพร้อมที่จับประตูแบบซ่อน เสา B และเสา C ใช้สีดำทำให้หลังคามีดีไซน์แบบ Floating Roof ส่วนด้านหลังใช้ไฟท้ายแบบยาว สปอยเลอร์สองชั้นที่หลังคาและบนไฟท้าย และมีดิฟฟิวเซอร์

จากข้อมูลการลงทะเบียนของ Seal 06GT ระบุว่า มิติตัวถังของรถมีความยาว 4,630 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,490 มม. ระยะฐานล้อ 2,820 มม. ตัวเลือกล้อมีขนาด 18″ และ 19″

ภายในของ Seal 06GT มาพร้อมหน้าจอกลางขนาดใหญ่และแผงหน้าปัดดิจิทัล โดยพวงมาลัยและแผงหน้าปัดนั้นมีลักษณ์เหมือนกับภายในของรถรุ่นอื่นๆ ใน Ocean Series สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่ออกแบบมาสำหรับประสบการณ์แห่งไดนามิก

Seal 06GT มาพร้อมระบบส่งกำลัง 2 แบบ ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD มอเตอร์เดี่ยว 2 รุ่น ให้กำลัง 160 kW และ 165 kW ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD มอเตอร์คู่ เพลาหน้าให้กำลัง 110 kW และเพลาหลังให้กำลัง 200 kW

ส่วนแบตเตอรี่มีความจุระหว่าง 9.52 kWh และ 72.96 kWh ให้ระยะทาง 505 กม., 605 กม. และ 550 กม. ตามมาตรฐาน CLTC โดยระยะทาง 550 กม. จะเป็นระยะทางสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ

Seal 06GT เป็นรถยนต์แฮชท์แบ็กไฟฟ้าทรงสปอร์ตขนาดกะทัดรัดไม่เหมือนใครในตลาด คาดว่าจะเริ่มวางขายในประเทศจีนช่วงไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ภายในปีนี้ ส่วนในตลาดต่างประเทศคาดว่าจะส่งออกได้ในช่วงต้นปี 2025 รอลุ้นกันว่ารุ่นนี้จะเข้าไทยด้วยหรือไม่

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.