ใน

ขณะที่ทรัมป์ตั้งเป้าเล่นงานจีน ขึ้นภาษีแตะ 145% ทางยุโรปและจีน เริ่มเจรจาราคาขั้นต่ำของรถยนต์ EV ที่ส่งออกไปยังยุโรปแล้ว

จากรายงานของสำนักข่าว Reuters ที่อ้างอิงหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนี ระบุว่า สหภาพยุโรป (EU) และจีน ได้เริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับราคานำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า ที่อาจมาแทนที่ภาษีนำเข้าของสหภาพยุโรปในปัจจุบันได้ การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินนโยบายเก็บภาษีเฉพาะเจาะจงกับจีน ซึ่งทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนหันมาขยายตลาดในยุโรปมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ

ขณะที่ทรัมป์ตั้งเป้าเล่นงานจีน ขึ้นภาษีแตะ 145% ทางยุโรปและจีน เริ่มเจรจาราคาขั้นต่ำของรถยนต์ EV ที่ส่งออกไปยังยุโรปแล้ว

โฆษกของ EU ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า Maros Sefcovic กรรมาธิการการค้าของ EU ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน Wang Wentao ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะสำรวจความเป็นไปได้ในการกำหนด “ราคาขั้นต่ำ” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ส่งออกมายุโรป ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ของจีนก็ยืนยันเช่นกันว่าการเจรจาที่เกี่ยวข้องจะ “เริ่มต้นในทันที”

กรรมาธิการ Maros Sefcovic เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การกำหนดราคาขั้นต่ำจะต้องเทียบเท่ากับมาตรการภาษีศุลกากรปัจจุบันและสามารถตรวจสอบได้ ปัจจุบัน EU ได้เก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนสูงถึง 45.3% ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ทำให้จีนตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีต่อสินค้านำเข้าจากยุโรป เช่น เหล้า French cognac แบรนด์ดังอย่าง Hennessy และ Rémy Martin ได้รับผลกระทบอย่างมาก

ช่วงเวลาที่เริ่มการเจรจานี้ คาดว่าได้รับอิทธิพลจากนโยบายการค้าของทรัมป์อย่างชัดเจน เนื่องจากทรัมป์ได้ประกาศระงับ “ภาษีตอบโต้” กับทุกประเทศ ยกเว้นจีนเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นภาษีกับสินค้าจีนเพิ่มเติม ซึ่ง ณ ตอนนี้ (11 เมษายน 2025) ได้ขึ้นภาษีจีนเป็น 145% แล้ว

แนวทางนี้อาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โลกที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้ลิตรถยนต์จีนต้องเผชิญอุปสรรคหนักหน่วงในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ จึงทำให้จีนกลับหันไปเร่งขยายตลาดในยุโรปมากขึ้น แม้จะยังมีภาษีศุลกากระของสหภาพยุโรปอยู่ก็ตาม แต่จีนก็ยังครองส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นได้

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมชี้ว่า การส่งออกรถยนต์จีนไปยังสหรัฐฯ นั้นมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ ทำให้ตลาดยุโรปกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของแบรนด์จีนอย่าง BYD, SAIC, Geely และอื่น ๆ นโยบายของทรัมป์จึงเหมือนเป็นการผลักให้ผู้ผลิตจีนเปลี่ยนทิศทางมาโฟกัสที่ยุโรปแทน

ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศคนหนึ่งกล่าวว่า “นี่เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการเบี่ยงเบนทางการค้า”  เมื่อสหรัฐฯ สร้างกำแพงภาษีจนแทบปิดตลาดสำหรับรถยนต์จีน ผู้ผลิตจีนก็หันไปเจาะตลาดอื่นที่ยังมีช่องทางให้เข้าได้มากกว่า

การที่สหภาพยุโรปยอมเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อตั้งราคาขั้นต่ำ แทนที่จะคิดภาษีแบบเปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าผู้นำยุโรปตระหนักถึงความสำคัญของการหาทางออกระยะยาวในการค้ากับจีน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่นโยบายของทรัมป์อาจสร้างความตึงเครียดต่อระบบการค้าทั่วโลก

และสำหรับผู้ผลิตจีนนั้น การกำหนดราคาขั้นต่ำ ก็อาจช่วยให้จีนวางแผนธุรกิจในยุโรปได้ชัดเจนและมั่นคงขึ้น และยังช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์ เพื่อขยายตลาดในยุโรปที่กลายเป็นเป้าหมายหลักอันดับหนึ่งนอกเอเชีย

แม้ทรัมป์จะตั้งใจใช้มาตรการรุนแรงกับจีน แต่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดคือ “การกระตุ้นให้จีนและยุโรปหันมาหารือกันมากขึ้น “ขณะที่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ เองก็กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.