ใน , , ,

Ferrari ไฟฟ้า 100% คาดราคาเริ่มต้นสูงถึง 500,000 ยูโร

Ferrari โมเดลไฟฟ้าคันแรกคาดการณ์ว่าราคาจะสูงถึง 5 แสนยูโร หรือมากกว่า ถือว่าราคาสูงอันดับต้น ๆ ของไลน์อัปรถทั้งหมดของแบรนด์แล้ว

Ferrari ไฟฟ้า 100% คาดราคาเริ่มต้นสูงถึง 500,000 ยูโร

ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา Ferrari เคยปฏิเสธที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ที่รู้จักกันด้วยเสียงเครื่องยนต์อันเร้าใจ ได้เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วพร้อมวางแผนปล่อยโมเดลไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ในช่วงปลายปี 2025

A Ferrari logo is seen on media day at the Paris auto show, in Paris

ครั้งนี้คาดว่าราคาจะสูงอันดับต้น ๆ จากรถ Ferrari ทั้งหมด และแหล่งข่าวอย่าง Reuters ได้รายงานว่าราคาเริ่มต้นคาดว่าจะอยู่ประมาณ 500,000 ยูโร (ประมาณ 19.6 ล้านบาท)

ทำให้ Ferrari ไฟฟ้าจะมีราคาแพงกว่าซุปเปอร์คาร์อย่าง SF90 Stradale และ Purosangue ที่ราคาสูงอยู่แล้วแม้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่ได้เป็นรุ่นลิมิเต็ดแต่อย่างใด Ferrari โมเดลไฟฟ้าคาดว่าราคาจะสูงกว่าประมาณ 15-20% สูงกว่าราคาเฉลี่ยประมาณ 350,000 ยูโร (ประมาณ 13.8 ล้านบาท) รวมออปชันแล้ว

Ferrari SF90 Spider

Ferrari SF90 Spider

Ferrari Purosangue

Ferrari Purosangue

หากการคาดการณ์นี้ถูกต้องก็หมายความว่า Ferrari ไม่ได้สนใจว่าราคาโมเดลไฟฟ้าที่มีราคาสูงขนาดนี้จะทำให้ลูกค้ายอมแพ้ หรือเลิกชอบไป เพราะทางแบรนด์ตั้งใจที่จะมอบเทคโนโลยีใหม่อย่างมอเตอร์ไฟฟ้า Axial-flux (มอเตอร์ติดกับล้อ) และเสียงสังเคราะห์แบบฉบับพิเศษเฉพาะของ Ferrari

Ferrari ไม่ได้กล่าวว่าจะผลิตรถไฟฟ้าออกมาเป็นประเภทไหน แต่ข่าวลือหลุดมาว่าอาจจะมีรูปร่างเหมือนกับ Purosangue มากกว่าที่จะเป็นโมเดลแบบซุปเปอร์คาร์ อ้างอิงจาก Reuters ทาง Ferrari ได้เริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าคันที่ 2 แล้วแต่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการผลิต

Ferrari จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานที่ใช้ชื่อว่า “e-building” โดย Benedetto Vigna CEO ของ Ferrari ตั้งอยู่ใกล้ ๆ โรงงานหลักที่เมือง Maranello อิตาลี โรงงานใหม่นี้จะเริ่มสายการผลิตในสัปดาห์นี้ โดยจะเริ่มผลิตรถโมเดลสันดาปก่อนที่จะเพิ่มพวกมอเตอร์ไฟฟ้า, อินเวอร์เตอร์ และแบตเตอรี่สำหรับ Plug-in-hybrid แต่สำหรับจำนวนสายการผลิตรถโมเดลไฟฟ้า 100% จะเริ่มจนกว่าจะถึงช่วงต้นปี 2026

Ferrari's New E-Building In Maranello Opens Its Doors | Carscoops

Ferrari “E-Building” ใน Maranello

เหมือนกับเครื่องยนต์น้ำมัน ทาง Ferrari ตั้งใจจะพัฒนาระบบมอเตอร์ไฟฟ้า, อินเวอร์เตอร์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้าเอง เพื่อขึ้นเป็นผู้นำในเรื่องของน้ำหนักและความจุของแบตเตอรี่ในอุตสาหกรรม

Ferrari ได้จับมือกับ SK On ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ทางแบรนด์เคยนำไปใช้ใน Ferrari SF90 Stradale และ 296 GTB และ 296 GTS ที่เป็นระบบ Plug-in Hybrid และในเดือนมีนาคมทั้ง 2 ได้ออกมาประกาศแผนการสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ ๆ ในอนาคต

ที่มา : Greencarreports

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.