Hyundai เตรียมเปิดตัวรถ EREV รุ่นแรกในปี 2027
Hyundai กำลังเดินหน้าขยายตลาดรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ด้วยเทคโนโลยี Extended-Range Electric Vehicle (EREV) ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปทำหน้าตัวปั่นไฟฟ้าเข้าไปชาร์จให้กับแบตเตอรี่ เพื่อช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทาง (Range Anxiety) แบรนด์มีแผนเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2027
รถใหญ่คือเป้าหมายหลัก
José Muñoz CEO ของ Hyundai Motor Company เปิดเผยหลังงานประชุมนักลงทุนว่าระบบ EREV จะถูกนำมาใช้กับรถขนาดใหญ่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นรถ SUV หรือรถกระบะ เนื่องจากชาวอเมริกัน ต้องการระยะทางขับขี่ที่ไกลและชอบใช้รถคันใหญ่เป็นหลัก
Hyundai ตั้งเป้าว่า EREV รุ่นใหม่จะมี ระยะทางสูงสุดถึง 965 กม. การใช้งานจะ “เหมือนกับรถ EV” แต่ใช้แบตเตอรี่ที่เล็กกว่า EV เพื่อช่วยประหยัดต้นทุน และน้ำหนัก
เหตุผลที่ต้องมี EREV
Muñoz อธิบายว่า ผู้ใช้รถ EV ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เช่นในแคลิฟอร์เนีย มักใช้งานเพื่อขับไปทำงานประจำวันและชาร์จไฟตอนกลางคืน ถือว่าสะดวกเหมือนการชาร์จโทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อถึงการเดินทางไกล เช่น ทริปวันหยุดสุดสัปดาห์ หลายคนยังมีความกังวลว่าจะหาสถานีชาร์จไม่ได้ หรือเครื่องชาร์จมีปัญหา ทำให้ EREV กลายเป็นทางเลือกเพิ่มเติมที่ตอบโจทย์ไม่น้อย
กลยุทธ์ 2 ทางของ Hyundai
Hyundai จะแก้ปัญหาด้วย 2 วิธี
-
เพิ่มเครือข่ายชาร์จเร็ว โดยร่วมลงทุนในเครือข่าย Ionna พร้อมทั้งเปลี่ยนมาใช้หัวชาร์จมาตรฐาน NACS แบบ Tesla
-
พัฒนา EREV สำหรับผู้ใช้ที่เน้นการเดินทางไกล และรถขนาดใหญ่
แม้ยังไม่เปิดเผยรุ่นอย่างเป็นทางการ แต่มีข่าวลือว่ามีสิทธิ์เป็น SANTA FE, Genesis GV70 หรือรถกระบะรุ่นใหม่
ภาพ Hyundai SANTA FE จาก Hyundai Thailand
Genesis GV70
กระแสโลกและคู่แข่ง
Hyundai ไม่ได้เดินคนเดียวในเส้นทางนี้
-
Scout Motors เปิดตัว EREV “Harvester” และผลคือลูกค้าสนใจ EREV มากกว่ารุ่นไฟฟ้าล้วน
-
Ram ยกเลิกแผนรถกระบะ EV หันมาพัฒนา EREV แทน
-
Ford ก็ประกาศชัดว่าต้องเข้าสู่ตลาด EREV เพราะ “คนอเมริกันชอบรถใหญ่ รถกระบะใหญ่”
ที่ผ่านมารถระบบ EREV ในตลาดอเมริกาจะมีในรถขนาดเล็กอย่าง Chevrolet Volt และ BMW i3 แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้กลับถูกนำมาใช้กับรถ SUV และรถกระบะขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในจีน
จุดแข็งของ EREV
รถไฟฟ้าขนาดใหญ่ต้องใช้แบตเตอรี่ก้อนขนาดใหญ่เพื่อวิ่งไกล แต่ก็เผชิญปัญหาด้านการลากจูงและบรรทุก ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้องการ EREV ช่วยลดการพึ่งพาแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และลดความกังวลเรื่องระยะทางได้ในเวลาเดียวกัน
ในอนาคต หากโครงสร้างพื้นฐานชาร์จไฟสมบูรณ์มากขึ้น เครื่องยนต์อาจถูกถอดออกไปทั้งหมด ทำให้ EREV ค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ EV แท้จริง
กลยุทธ์ระยะยาวในตลาดสหรัฐฯ
Muñoz ยอมรับว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดสำคัญที่สุด และหากยอดขาย EV ชะลอตัวเพราะมาตรการลดหย่อนภาษีหมดลง Hyundai จะพึ่งพา Hybrid และ EREV เพื่อพยุงยอดขาย โรงงาน Metaplant Georgia จึงถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการผลิตทั้ง EV, Hybrid และ EREV
Muñoz ทิ้งท้ายว่า “ภายในปี 2030 จะเกิดสมดุลที่ดี ประมาณ 50/50 ระหว่าง Hybrid และ EV” และ EREV อาจเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญหากลูกค้าอเมริกันตอบรับอย่างที่ Hyundai คาดหวัง
ที่มา : Insideevs