ใน , , , , ,

Hyundai IONIQ 6 N ภาพทีเซอร์ ซีดานไฟฟ้าตัวแรง เตรียมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

Hyundai พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นใหม่ในตระกูล N เพราะล่าสุดได้เผยภาพทีเซอร์ของ Hyundai IONIQ 6 N เวอร์ชันตัวแรงของซีดานไฟฟ้ายอดนิยม และจะมาเป็นรุ่นน้องสุดซิ่งของ IONIQ 5 N ที่ได้รับรางวัลรถยนต์ไฟฟ้าแห่งปี

Hyundai IONIQ 6 N ภาพทีเซอร์ ซีดานไฟฟ้าตัวแรง เตรียมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

แม้ภาพทีเซอร์ Hyundai IONIQ 6 N จะยังคงเห็นแค่เพียงเงารูปร่างของตัวรถเท่านั้น แต่สิ่งที่มองเห็นได้ชัดคือ สปอยเลอร์ท้ายแบบดัคเทล (Ducktail) พร้อมสปอร์ยเลอร์หลังขนาดใหญ่ (Wing) ที่ออกแบบมาเพื่อสมรรถนะแบบเต็มสูบ Hyundai ยังยืนยันว่า IONIQ 6 N จะมาพร้อม ซุ้มล้อโป่งขึ้น และช่วงล่างเพิ่มความกว้างส่งผลให้ตัวถังมีความแน่นหนึบเกาะถนนเหมือนรถแข่ง

2026 hyundai ioniq 6 n teaser front

ภายใต้ซุ้มล้อใช้ล้อแม็กน้ำหนักเบา พร้อมยางที่ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะสูงสุด เหมือนกันกับ IONIQ 5 N คาดว่า IONIQ 6 N จะติดตั้งเบรกขนาดใหญ่ขึ้น และยางสมรรถนะสูงกว่ารุ่นปกติ

2026 hyundai ioniq 6 n teaser wheel closeup

ดีไซน์แบบพิกเซล และแนวคิด “Corner Rascal”

ไฟท้ายของ IONIQ 6 N ยังคงใช้การเล่นจุดพิกเซลที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล IONIQ และยังมีจุดพิกเซลแบบแยกตัวบริเวณฝากระโปรงท้าย เหมือนกับไฟของ Ford Raptor ที่อยู่บริเวณกันชนหน้าครับ

2026 hyundai ioniq 6 n teaser taillights

Hyundai ยังเปิดเผยว่า IONIQ 6 N จะเน้น 3 ด้านสมรรถนะ โดยแบรนด์มีชื่อเรียกเฉพาะตามนี้ครับ

  • Corner Rascal – สำหรับสายซิ่งที่ชื่นชอบการเข้าโค้ง
  • Everyday Sports Car – รถสปอร์ตใช้งานได้ทุกวัน

  • Racetrack Capability – สมรรถนะระดับสนามแข่ง

แม้ชื่อ 2 ข้อหลังจะดูธรรมดา แต่ความแรงของมอเตอร์ไฟฟ้าก็ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เพราะ Hyundai เคลมว่าพละกำลังอาจมากกว่ารถสปอร์ตที่ใช้เครื่อง V8 อย่าง Ford Mustang เลยทีเดียวครับ

ยังไม่เผยสเปค แต่แรงชัวร์

Hyundai ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคอย่างเป็นทางการของ IONIQ 6 N แต่จากสิ่งที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ คาดว่าจะมีพละกำลัง 641 แรงม้า ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมือนกับ IONIQ 5 N ที่สามารถทำอัตราเร่ง และการควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยม

2026 hyundai ioniq 6 n teaser front

สำหรับราคาของ IONIQ 5 N ในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ประมาณ 67,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.47 ล้านบาท) ส่วน IONIQ 6 N คาดว่าจะอยู่ต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.58 ล้านบาท) แต่เราจะต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้กันครับ

ที่มา : Caranddriver

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.