Masahiro Moro ประธานบริษัท Mazda เปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ EZ-60 อย่างเป็นทางการในงาน Auto Shanghai 2025 สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่ Mazda ให้กับตลาด และศักยภาพการผลิตในประเทศจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทุ่มทุนพลักดันรถ NEV ในจีน และได้ตั้งเป้ายอดขายดังนี้ครับ
Mazda ทุ่มทุนในจีน ตั้งเป้ายอดขาย 300,000 คันต่อปี เดินหน้าผลักดันรถยนต์พลังงานใหม่ 90% ภายในปี 2027
Mazda ตั้งเป้าลงทุนในจีนจำนวน 10 พันล้านหยวน (ประมาณ 50,000 ล้านบาท) พร้อมตั้งเป้ายอดส่งออกต่อปีในมูลค่าเดียวกัน อีกทั้งยังวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่า Mazda คาดหวังยอดขาย 300,000 คันต่อปีภายในปี 2027 โดยในจำนวนนี้ 90% จะเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ทั้งแบบไฟฟ้าและไฮบริด
Nanjing: ศูนย์กลางการพัฒนาใหม่ของ Mazda
ศูนย์การผลิตของ Mazda ในเมืองหนานจิงได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย การผลิต และการส่งออกแบบครบวงจร โดย Mazda วางกลยุทธ์ใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งของจีนอย่างเต็มที่ รถยนต์และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นที่นี่จะถูกส่งต่อไปยังตลาดโลกของ Mazda ในอนาคต
ความปลอดภัยและเทคโนโลยี: จุดขายของ Mazda 6e และ EZ-60
Mazda 6e มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การทนความร้อนสูงถึง 800 องศาเซลเซียส การตกจากความสูง 5 เมตร อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่พัฒนาร่วมกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่นซึ่งได้รับการรับรองความปลอดภัยจากทั้งหน่วยงานจีนและยุโรป (แพลตฟอร์ม EPA จาก Changan Deepal L07 และ S07 สำหรับ EZ-60)
สำหรับ Mazda EZ-60 ถือเป็นรถ SUV โดดเด่นด้วยการออกแบบแอโรไดนามิกเพื่อลดแรงต้านลมได้ดี พร้อมด้วยจอแสดงผลภายในคาดยาวขนาดใหญ่ ระบบควบคุมด้วยเสียง พร้อม Heads-Up Display ที่สามารถแปลงเป็นจอบันเทิงได้ตอนจอดรถ
ผสานมาตรฐานญี่ปุ่นกับศักยภาพจีน
Mazda ยังคงรักษามาตรฐานการออกแบบของตนเองไว้ด้วย KODO Design แต่ได้เปรียบด้านต้นทุนและประสิทธิภาพของการผลิตในจีนทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด มากกว่านั้น Mazda เองยังมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอีก 2 รุ่นภายในปี 2027
ความท้าทายและโอกาสในตลาดจีน
ตลาดรถยนต์ในจีนถือว่ามีการแข่งขันสูงมาก โดยมีทั้งแบรนด์ท้องถิ่นที่ตั้งราคาถูกกว่า แบรนด์ EV หน้าใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้ทาง Mazda ต้องแข่งขันทั้งด้านราคาและนวัตกรรม แม้แต่รถอย่าง Changan เองที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันก็ตาม แต่ Mazda ก็เชื่อมั่นว่าการผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญด้านการผลิตของ แบรนด์กับศักยภาพของจีน จะช่วยให้สามารถส่งมอบรถยนต์พลังงานใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคชาวจีน และตลาดต่างประเทศได้
View this post on Instagram
ที่มา : Carnewschina