Volkswagen Group ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน พัฒนาแพลตฟอร์มรถ EV ใหม่ MEB+ จุดเด่นคือทำให้รถวิ่งได้ไกลขึ้น และชาร์จเร็วขึ้น เตรียมนำไปใช้กับรถ EV กว่า 10 รุ่นภายในปี 2026
MEB+ แพลตฟอร์มรถ EV เจนใหม่ของ Volkswagen Group ชาร์จเร็วขึ้น วิ่งได้ไกลขึ้น!
Volkswagen Group ได้อัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม MEB+ สำหรับรถ EV คาดว่าจะได้เห็นเทคโนโลยีนี้ในอนาคต
ย้อนกลับไปในปี 2015 ก่อนที่ Volkswagen มองการณ์ไกล เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถ EV ที่ตรงตามความต้องการ สามารถนำไปต่อยอดได้ เริ่มจากการดัดแปลงตัวถังรถที่มีอยู่เดิมกับส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า จนกลายมาเป็นแพลตฟอร์ม MEB ที่ให้ระยะทางการวิ่งประมาณ 500 กม./ชาร์จ ซึ่งปัจจุบันถูกใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นของ Volkswagen เช่น ID.3, ID.4 และ ID.Buzz ที่เป็นรุ่นใหม่
เมื่อเดือนเมษายน 2022 นั้น Electrek เคยรายงานข่าวของ Volkswagen เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม MEB+ ซึ่งเคลมไว้ว่าว่าจะมอบระยะทาง 700 กม./ชาร์จ ให้กับกลุ่มรถ EV ของ Volkswagen ในอนาคต และล่าสุด Volkswagen ได้แชร์การอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของแพลตฟอร์ม MEB+ ให้เราทราบแล้ว
แพลตฟอร์ม MEB+ จะถูกนำมาใช้ในรถ EV กว่า 10 รุ่น ในปี 2026
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Volkswagen จะลงทุนอย่างมากในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถ EV โดยแพลตฟอร์ม MEB จะกลายเป็น MEB+ เทคโนโลยีการชาร์จและการจัดเก็บ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น แพลตฟอร์ม MEB+ จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ เช่น รองรับฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติ
และแพลตฟอร์ม MEB+ จะใช้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ ซึ่งเรียกว่า เซลล์หน่วย (unit cell) ที่สามารถปรับแต่งขนาดของแบตเตอรี่ได้ มอบระยะวิ่งได้ไกลถึง 700 กม./ชาร์จ นอกจากนี้ MEB+ ยังจะปรับปรุงเกี่ยวกับเวลาที่ใช้ในการชาร์จ โดยจะมีความเร็วในการชาร์จที่ 175–200 กิโลวัตต์ เลยทีเดียว
MEB+ จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถ EV ของ Volkswagen Group อย่างน้อย 1o รุ่น ภายในปี 2026 อาจจะได้ในรถระดับพรีเมี่ยมและรถสมรรถนะสูง ชี้ให้เห็นว่าเราอาจจะได้เห็นรถ Audi ที่ใช้แพลตฟอร์ม MEB+ ก็เป็นได้
แบรนด์รถยนต์ที่อยู่ภายใต้ Volkswagen Group ที่เราคุ้นเคยได้แก่ Audi, Porsche, Lamborghini, Bently และอื่น ๆ
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารถรุ่นไหนที่จะได้ใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นรุ่นแรก เมื่อยับงไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด ต้องรอติดตามกันต่อไป
ที่มา – electrek