ใน ,

Elon Musk กล่าว.. “ถึงจะเจ๊งก็ไม่เป็นไร” หากบริษัทคู่แข่งผลิตรถ EV ได้ดีกว่า

แม้จะผ่านช่วงที่เกือบล้มละลายมาตั้งหลายหน แต่ Elon Musk ได้กล่าวกับหนึ่งในบอร์ดผู้บริหารว่า “ถึงบริษัทจะล้มละลายก็ไม่เป็นไร” หากมีรถรุ่นใหม่ที่ดีกว่า

Elon Musk กล่าว.. “ถึงจะเจ๊งก็ไม่เป็นไร” หากบริษัทคู่แข่งผลิตรถ EV ได้ดีกว่า

Tesla หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับโลก ก็ยังไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากรถเครื่องยนต์สันดาปภายในได้อยู่ดี จึงทำให้เป้าหมายการผลิตและการขายของบริษัทรายนี้ไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คิด หลังจาก Elon Musk ได้พูดอยู่เสมอว่า “คู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของ Tesla ไม่ใช่ผู้ผลิตรถ EV รายอื่น แต่เป็นผู้ผลิตรถยนต์สันดาปภายใน”

แต่ถ้าลองคิดกันดูเล่น ๆ ว่า จะเกิดอะไรขึ้นหาก มีบริษัทผลิตรถ EV คู่แข่ง ได้ท้าทายอำนาจจาก Tesla ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีกว่าและเจ๋งกว่า ฮิโรมิจิ มิซุโน่ หนึ่งในบอร์ดผู้บริหารจากผู้ผลิตรถรายนี้ กล่าวว่า “Elon Musk คงไม่ว่าอะไรหรอก”

จากการประชุมสุดยอดรัฐบาลโลกหรือ World Government Summit ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มิซุโน่ได้ให้สัมภาษณ์เรื่อง Elon Musk ที่เคยพูดกับเขาอยู่บ่อย ๆ ว่า “หากมีผู้ผลิตรถ EV ที่ดีกว่า จนทำให้ Tesla ต้องล้มละลายนั้นก็ไม่เป็นไร” แม้เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ Elon พูดก็ตาม

น่าสนใจที่มิซุโน่ไม่เห็นด้วยกับการที่ Elon Musk เคยพูดไว้อยู่เสมอ ซึ่งมันก็ค่อนข้างสมเหตุผลที่ว่า ตำแหน่งของเขานั้นต้องดูแลผลประโยชน์ระยะยาวของบริษัท ซึ่งจะยอมให้บริษัทตัวเองนั้นล้มลายได้อย่างไร จริงไหม?

อย่างที่สองคือการที่มหาเศรษฐีอย่าง Elon Musk ได้พูดเรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ เขาได้หมายความตามนั้นจริงหรือ ? หรือเกิดจากการมีความมั่นใจมากเกินไป เพราะยังไม่มีบริษัทใดในตลาดรถ EV ที่แซงหน้า Tesla ของเขาได้เลย

แม้ก่อนหน้านี้ Elon Musk เคยกล่าวไว้ว่า Tesla อาจล้มละลายตั้งหลายครั้งในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งในปี 2020 ที่เคยบอกไว้ว่าบริษัทใกล้จบเห่ภายในไม่ถึงเดือน และอีกหลาย ๆ ครั้งในปี 2017 และ 2019 เรียกได้ว่าฝ่าวิกฤตมาได้อย่างฉิวเฉียดเลยทีเดียว

ถึงอย่างไรก็ตามหากมีแบรนด์ที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ดีกว่า Tesla ก็น่าเป็นเรื่องตื่นเต้นสำหรับสาวกรถ EV อย่างเรา ๆ ที่ได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพดีนอกเหนือจาก Tesla บ้างในอนาคต

แต่สำหรับเรื่องการล้มละลายนั้น Tesla เหมือนกับพระเอกที่แม้จะพ่ายแพ้ในตลาดรถ EV แต่ก็ยังรับได้และปล่อยให้แบรนด์คู่แข่งขึ้นครองตำแหน่งรถ EV แทนตัวเองไปเลย ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ Fair play เพราะอย่างไรก็ไม่ว่าวงการไหนก็ย่อมมีการแข่งขัน และในอนาคตย่อมมีรถที่ดีกว่า Tesla เข้ามาทดแทนอย่างแน่นอน

ที่มา – insideevs

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Thanakrit Kongpon