ใน ,

ภาพ Spyshot ของ Nio ET5 รุ่นปี 2025 ใหม่ มาพร้อมชิป 5nm ที่พัฒนาเองและรองรับ AI

Nio ได้เปิดเผยข้อมูลของรถยนต์ซีดานรุ่น ET5 ปี 2025 ซึ่งมาพร้อมกับการปรับดีไซน์ อัปเกรดฮาร์ดแวร์ และปรับเปลี่ยนภายในห้องโดยสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเพื่อให้รถรุ่นนี้สามารถแข่งขันได้ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนได้ แม้ว่าตัวรถจะยังใช้แพลตฟอร์มเดิมอยู่ แต่มีการปรับปรุงหลายจุดเพื่อเพิ่มความสะดวกและประสบการณ์ใช้งานของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ภาพ Spyshot ของ Nio ET5 รุ่นปี 2025 ใหม่ มาพร้อมชิป 5nm ที่พัฒนาเองและรองรับ AI

จากภาพ Spyshot เห็นได้ว่าด้านหน้ารถมีการเปลี่ยนไฟ Daytime Running Light ใหม่ ให้มีรูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน แทนที่ดีไซน์เดิมแบบบูมเมอแรง ไฟหน้าถูกเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยี LED แบบเมทริกซ์ ซึ่งมีขอบรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่คมชัดมากขึ้น ส่วนกันชนหน้าก็ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมช่องลมขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยให้รถลู่ลมได้ดีขึ้นเล็กน้อย

องค์ประกอบหลักของตัวรถ เช่น หลังคากระจกพาโนรามา ประตูแบบไม่มีกรอบ และมือจับประตูแบบเรียบกับตัวถัง ยังคงเหมือนเดิม ส่วนด้านหลังของรถมีการเพิ่มสปอยเลอร์ขนาดเล็กไว้เหนือไฟท้ายแบบคาดยาวทั้งฝั่ง

หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงสำคัญของรุ่นนี้คือ ระบบฮาร์ดแวร์สำหรับขับขี่อัตโนมัติ แม้ว่าเซนเซอร์ LiDAR และกล้องต่าง ๆ จะอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่ตอนนี้ระบบทั้งหมดถูกควบคุมโดยชิป NX9031 ซึ่งเป็นชิปขนาด 5 Nm ที่ Nio พัฒนาขึ้นเอง ชิปตัวใหม่นี้ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลเร็วขึ้น และทำให้ระบบขับขี่อัตโนมัติมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่ารายละเอียดภายในห้องโดยสารของ ET5 รุ่นใหม่จะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ Nio ได้ยืนยันแล้วว่ารถรุ่นปี 2025 ทั้ง ET5, ET5T, ES6 และ EC6 จะใช้หน้าจอแนวนอนแบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่นเรือธงอย่าง ET9 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมชิปที่พัฒนาเอง และจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Sky OS เวอร์ชันเต็ม

ผู้ช่วย AI ภายในรถที่ชื่อว่า NOMI ก็ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการสั่งงานด้วยเสียงที่ซับซ้อนมากขึ้น แผงคอนโซลกลางถูกออกแบบใหม่ โดยเพิ่มแท่นชาร์จไร้สาย 2 จุด และช่องเก็บของเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นในชีวิตประจำวัน

สำหรับระบบส่งกำลัง ยังคงใช้ระบบขับเคลื่อนแบบมอเตอร์คู่ (Dual-Motor) ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังรวม 360 kW แบตเตอรี่ยังมีให้เลือก 2 แบบ คือ ความจุ 75 kWh (วิ่งได้ไกลสูงสุด 560 กม.) และ 100 kWh (วิ่งได้สูงสุด 710 กม.) ตามมาตรฐาน CLTC ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จเร็วที่กำลัง 180 kW และสามารถใช้งานร่วมกับสถานีสลับแบตเตอรี่ของ Nio ได้

รถรุ่นนี้ได้ถูกส่งไปขอการรับรองจากทางการแล้ว และใช้ชื่อรุ่นว่า Champion Edition ซึ่งอาจหมายถึงการปรับราคา หรือเพิ่มคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง กำหนดการเปิดตัวในตลาดจีนจะมีขึ้นภายในเดือนนี้ พร้อมกับรุ่น ET5 Touring ที่ได้รับการอัปเดตเช่นกัน โดย ET5 จะต้องแข่งขันกับรุ่น Xiaomi SU7 และ BYD Han L ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.