Nuttanon P.
Rivian CEO ยอมรับรถยนต์จากจีน “ดีกว่า” ไม่ใช่แค่ถูกกว่าเท่านั้น
RJ Scaringe ซีอีโอของ Rivian ออกมาให้ความเห็นว่า ความเข้าใจที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจีนเด่นแค่เรื่องราคาเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ เพราะแท้จริงแล้ว
“เทคโนโลยีของพวกเขาถือว่าดีกว่า หากผมเป็นต้องแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่ Rivian ผมจะไม่กังวลแค่เรื่องราคาเท่านั้น แต่จะโฟกัสความจริงที่ว่ารถยนต์เหล่านี้คุณภาพ และเทคโนโลยีดีกว่าจริง ๆ”
Rivian CEO อธิบายสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าจีน
อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเติบโตจนกลายเป็นพลังสำคัญในระดับโลก แต่สิ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดคือราคาที่ถูกมาก เช่นเคสของ BYD ราคา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 360,000 บาท) ซึ่งหากขายจริงในสหรัฐฯ จะไม่มีทางถูกได้ขนาดนั้น เนื่องจากต้องเผชิญทั้งมาตรฐานความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และภาษีนำเข้าที่ปัจจุบันสูงกว่า 100% จนแทบเป็นการห้ามนำเข้าโดยปริยาย
ในยุโรปเอง BYD Seagull ก็ขายอยู่ที่ราว 23,000 ยูโร (ประมาณ 920,000 บาท) ซึ่งสูงกว่าที่ขายในจีนมากเช่นกัน
มุมมองของ Rivian CEO
RJ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Plugged-In Podcast ว่าความกังวลของผู้ผลิตสหรัฐฯ ไม่ควรยึดติดกับ “ราคา” แต่ควรโฟกัสที่ว่า “รถยนต์จีนมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า”
จีนได้พัฒนารถยนต์ให้เป็นเหมือน “สมาร์ทโฟนติดล้อ” มานานแล้ว ขณะที่ค่ายตะวันตกเพิ่งเริ่มต้น ตัวอย่างเช่นงาน Shanghai Auto Show มีการแสดงเทคโนโลยีที่เรียกว่าแทบจะ “เหมือน Tesla แต่ดันดีกว่า” ไม่ว่าจะเป็นระบบอินโฟเทนเมนต์ขั้นสูงที่ มีคาราโอเกะไร้ไมค์ ผู้ช่วยเสียง AI สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่น การอัปเดตแบบ OTA ที่บ่อยครั้ง รวมถึงการพัฒนารถใหม่ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ตัวอย่างที่โดดเด่น: Xiaomi SU7
Xiaomi SU7 ซีดานไฟฟ้าก็ได้มุ่งชน Porsche จัง ๆ ทำให้ RJ ยกย่องว่าเป็น “รถที่ทำออกมาได้น่าประทับใจ” จุดเด่นคือการเชื่อมต่อกับ Ecosystem ของ Xiaomi ได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น สั่งเปิดแอร์ในรถจากลำโพงอัจฉริยะที่บ้านได้ หรือดูภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านบนหน้าจอรถ
ไม่ใช่แค่ Rivian ที่เตือน
ผู้บริหารค่ายอื่นอย่าง Jim Farley ซีอีโอของ Ford ก็ออกมายอมรับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จีน “ถ่อมตัวมากที่สุดเท่าที่เคยเจอ” และยังมีเทคโนโลยีในรถเหนือกว่ามาก Ford จึงต้องวางแผนสร้างแพลตฟอร์ม EV ใหม่เพื่อรับมือ
ต้นทุน vs เทคโนโลยี
RJ ได้บอกว่าไม่ต้องกลัวรถยนต์จีนราคาถูกจะโถมเข้าสหรัฐฯ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง ทางรัฐบาลก็จะปรับภาษีให้อยู่ระดับเท่ากัน หรือบังคับให้ผลิตในสหรัฐฯ สุดท้ายแล้ว “ต้นทุนก็ใกล้เคียงกัน” เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านแรงงาน ต้นทุนเงินทุน และเงินอุดหนุนจากรัฐของจีนจะหมดไปเมื่อผลิตนอกประเทศ
เขาสรุปว่ามันไม่มี “สูตรลับ” ที่ทำให้จีนผลิตรถถูกได้กว่ามาก เพียงแค่ฝั่งจีนพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้ต้นทุนต่ำลง แต่หากต้องแข่งในตลาดเดียวกัน ราคาจะใกล้เคียงกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่จะตัดสินชัยชนะจึงไม่ใช่ราคา แต่คือ เทคโนโลยี
Rivian CEO เตือนว่าผู้ผลิตทั่วโลกไม่ควรเสียเวลากังวลเรื่องราคาของรถยนต์จีน แต่ควรทุ่มเทเพื่อพัฒนาคุณภาพ เทคโนโลยี เพราะเมื่อวันหนึ่งจีนเข้ามาแข่งขันในตลาดตะวันตกจริงจัง สิ่งที่จะสามารถตัดสิ้นได้ขาดก็คือ “รถยนต์ของพวกเขาดีกว่าจริงหรือไม่”
ที่มา : The Drive
