แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Rivian สัญชาติอเมริกันเตรียมแผนเปิดตัวระบบช่วยขับขั้นสูงที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องจับพวงมาลัย (Hands-Free) ในปี 2025 และระบบ “ไร้สายตา” (Eyes-Off) ที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ละสายตาจากถนนได้ในปี 2026 ตามคำแถลงของ RJ Scaringe
Rivian เตรียมเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติ ในปี 2025 พร้อมระบบ “ละสายตาจากถนน” ปี 2026
CEO ได้กล่าวว่าระบบเหล่านี้จะ “เพิ่มมูลค่าอย่างมหาศาลให้กับลูกค้าของแบรนด์” เพราะจะสามารถช่วยให้พวกเขามีเวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ใช้โทรศัพท์ อ่านหนังสือ หรือส่งอีเมล ได้ขณะอยู่หลังพวงมาลัย
ปัจจุบัน รถรุ่น Gen 2 ของ Rivian มาพร้อมกับ “Rivian Autonomy Platform” แม้จะช่วยการขับขี่แต่ก็ยังคงต้องใส่ใจในการควบคุมรถจากผู้ขับขี่ที่ยังคล้ายกับระบบของแบรนด์อื่น ๆ
การประกาศนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) กำลังถูกตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะจาก Tesla ที่กำลังพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ และรถแท็กซี่ไร้คนขับ
ผลกระทบจากคำสั่งของทรัมป์
Rivian ยืนยันว่าแผนกู้เงินจำนวน 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 217,800 ล้านบาท) จากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงงานผลิตในรัฐจอร์เจียไม่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์
RJ Scaringe CEO ของ Rivian
ในเดือนมกราคม ทรัมป์ได้เพิกถอนคำสั่งปี 2021 ของโจ ไบเดน ที่ได้ตั้งเป้าให้ 50% ของรถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ยุติการยกเว้นกฎระเบียบให้รัฐสามารถตั้งกฎรถปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle Rules) ภายในปี 2035 และพิจารณายกเลิกเครดิตภาษีสำหรับรถ EV
ทรัมป์ยังขู่ที่จะเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ที่อาจสร้างความเสียหายต่อซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเม็กซิโก ซึ่งได้รับการลงทุนหลายแสนล้านบาทตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
RJ Scaringe กล่าวเสริมว่า “เรากำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะมันอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงได้ในอนาคต”
ที่มา : Reuters