GWM กระตุ้นตลาดเอสยูวีสายลุยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Tank 300 Hi4-T รุ่นอัปเกรดใหม่ ที่แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะคงเดิม แต่ซ่อนเขี้ยวเล็บใหม่ไว้เพียบ ทั้งการเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงจาก CATL และอัปเกรดมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีพละกำลังแรงบิดสูงขึ้น แถมยังชาร์จไฟได้เร็วกว่าเดิม โดยที่ข่าวดีที่สุดคือยังคงตรึงราคาจำหน่ายไว้ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาทเท่าเดิม
GWM Tank 300 Hi4-T อัปเกรดใหม่ ได้แบตเตอรี่ CATL และมอเตอร์แรงขึ้น ในราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท
GWM ได้เปิดตัว Tank 300 Hi4-T อัปเกรดสเปกใหม่ โดยมีการเปลี่ยนซัพพลายเออร์แบตเตอรี่และปรับปรุงพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ แต่ยังคงราคาจำหน่ายไว้ที่เดิมคือ 249,800 หยวน หรือประมาณ 1,200,000 บาท ตามรายงานของ D-Auto การอัปเดตทางเทคนิคหลักในครั้งนี้อยู่ที่ระบบไฟฟ้า

โดยระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) นี้ ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งลำพังตัวเครื่องยนต์นั้นให้กำลัง 252 แรงม้า และแรงบิด 380 นิวตันเมตร
ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้า ได้รับการอัปเกรดกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 120 kW เป็น 130 kW และแรงบิดสูงสุดเพิ่มจาก 400 นิวตันเมตร เป็น 495 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันทั้งระบบจะให้กำลังรวมสูงถึง 310 kW

นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 36.7 kWh จากค่าย CATL รองรับการวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกล 105 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTC) ที่สำคัญคือระบบชาร์จเร็ว DC จาก 30% ถึง 80% ใช้เวลาน้อยลงเหลือเพียง 0.27 ชั่วโมง (ประมาณ 16 นาที) จากเดิมที่ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง
ส่วนการชาร์จแบบ AC ยังคงใช้เวลาประมาณ 6.5 ชั่วโมง ระบบส่งกำลังยังคงใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

รูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นปี 2025 ยังคงดีไซน์ดั้งเดิมของ Tank 300 เอาไว้ ด้วยสัดส่วนรถ SUV ทรงกล่อง มาพร้อมกระจังหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไฟหน้าทรงกลมรมดำ ราวหลังคา ล้ออัลลอยทูโทน และประตูท้ายแบบเปิดข้างพร้อมยางอะไหล่ไซส์จริง กันชนหน้า-หลัง ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแนวตั้งยังคงรักษาเอกลักษณ์ความบึกบึนไว้เช่นเดิม มิติตัวถังมีความยาว 4,750 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,903 มม. และฐานล้อ 2,750 มม.

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยหน้าจอกลางแบบลอยตัวขนาด 14.6 นิ้ว จับคู่กับหน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว มีแท่นชาร์จไร้สายขนาด 50W สองตำแหน่ง และตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม

อุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันก้านคู่ หัวเกียร์ไฟฟ้า และปุ่มกดสำหรับฟังก์ชันออฟโรด เช่น การเลือกโหมดขับขี่, การล็อกเฟืองท้าย (Diff-lock) และฟังก์ชัน Tank Turn ระบบช่วยกลับรถในที่แคบ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ระดับ L2, ไฟหน้า LED อัตโนมัติ, หลังคาซันรูฟ, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, เบาะหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบอุ่นเบาะ, ช่องแอร์หลัง และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
จากข้อมูลยอดขายระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2025 พบว่า Tank 300 Hi4-T มียอดขายสะสมในประเทศจีนอยู่ที่ 24,254 คัน ซึ่งในปัจจุบันตระกูล Tank 300 มีจำหน่ายครอบคลุมทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
ที่มา carnewschina
