ใน ,

ยอดขาย Tesla ในจีนร่วงหนัก ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนโดยรวมกำลังเติบโต

ยอดขายของ Tesla ในจีนกำลังดิ่งลงอย่างหนัก จากข้อมูลใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่ล่าสุด สถานการณ์นี้เกิดขึ้นแม้ว่าจะมีการเปิดตัว Model Y รุ่นใหม่ การมอบส่วนลดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และโปรโมชันต่าง ๆ แต่การแข่งขันที่รุนแรงและสงครามราคาครั้งใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังสร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับ Tesla ในประเทศจีน

ยอดขาย Tesla ในจีนร่วงหนัก ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนโดยรวมกำลังเติบโต

ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ Tesla เผชิญกับยอดขายที่ชะลอตัวทั่วโลก รวมถึงในจีน แต่ทางบริษัทให้เหตุผลว่าเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของ Model Y ซึ่งทำให้กำลังการผลิตลดลงตลอดทั้งไตรมาส

แต่ในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ไม่มีปัญหาการผลิตแล้ว และ Tesla เอง ก็น่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการซื้อที่มาจากขึ้นไตรมาสแรกสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ขายดีที่สุดของบริษัท แต่จากข้อมูลล่าสุดกลับชี้ว่า ผลประกอบการของ Tesla ในจีนช่วงไตรมาสที่ 2 นั้นแย่กว่าไตรมาสแรก และยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลการจดทะเบียนประกันภัยรถยนต์ใหม่จากจีนที่เปิดเผยในวันนี้ ยืนยันว่า Tesla ขายรถยนต์ในจีนได้เพียง 8,600 คันในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน

ตัวเลขนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และลดลงกว่า 4,000 คันเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แม้ว่าโดยปกติแล้ว Tesla จะเร่งส่งมอบรถยนต์ในประเทศในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสก็ตาม

โดยยอดส่งมอบสะสมของ Tesla ในปี 2025 ขณะนี้ตามหลังปี 2024 อยู่ประมาณ 20,000 คัน ยอดขายที่ลดลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Tesla เสนอส่วนลดมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รวมถึงแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ด้วย

ข้อมูลยอดค้าปลีกและส่งออกของเดือนพฤษภาคม 2025 ก็ถูกเปิดเผยออกมาเช่นกัน โดยยืนยันว่า Tesla ส่งมอบรถยนต์ในจีนไป 38,588 คัน และส่งออกจากจีนอีก 23,074 คันในเดือนพฤษภาคม รวมเป็นยอดทั้งหมด 61,662 คัน ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งมอบทั้งในและออกจากประเทศจีนของ Tesla นั้นลดลงทุกเดือนนับตั้งแต่ต้นปี 2025

ผลการดำเนินงานที่ลดลงของ Tesla ในปี 2025 ดูน่ากังวลเป็นพิเศษเมื่อพิจารณาจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมในจีนที่กำลังพุ่งสูงขึ้น โดยตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เติบโตขึ้นถึง 35% ในไตรมาสแรก และแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสที่ 2

ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า คู่แข่งรถยนต์ไฟฟ้าในจีนกำลังแย่งชิงยอดขายไปจาก Tesla และคาดว่าสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เนื่องจาก BYD เพิ่งจุดชนวนสงครามราคา EV รอบใหม่ในจีนด้วยการลดราคาครั้งใหญ่

ที่มา electrek

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.