พรีวิวรอบคัน Aston Martin Vantage รุ่นปรับโฉม 2025 หล่อดุกว่าเดิม แรงขึ้น จูนช่วงล่างปรับให้ Stiff ขึ้น ขับสนุกขึ้น สามารถปรับระดับ Traction Control ได้ถึง 8 ระดับด้วยโหมด ATC ทำให้ท้ายปัดได้ ได้ระบบความบันเทิง Next-generation infotainment ใหม่ มาชมรายละเอียด Vantage ตัวใหม่กันครับ
The New Aston Martin Vantage 2025 หล่อแรงขึ้น ปรับระดับให้ท้ายปัดได้ ระบบ Infotainment เจนใหม่
Aston Martin Vantage ใหม่คันนี้เป็นการปรับโฉมที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ถึง 80% ทั้งภายในและภายนอก แบรนด์ทำให้ Vantange ครั้งนี้ขับสนุกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับ Design Language จาก One-77 สำหรับการออกแบบด้านหน้ารถ Aston Martin เจนใหม่หน้าตาคล้ายกันมากขึ้น
สำหรับ Aston Martin Vantage ทางแบรนด์ถือว่าเป็นรถสปอร์ตที่ได้มอบความฮาร์ดคอร์มายาวนานกว่า 74 ปี นำเทคโนโลยีจากการแข่งขัน Formula 1 และ 24 Hours of Le Mans มาถ่ายทอดสู่การขับขี่บนถนนจริง
มิติตัวถัง Aston Martin Vantage 2025
- ความยาว 4,495 มม. x กว้าง 1,980 มม. x สูง 1,275 มม.
- ฐานล้อยาว 2,705 มม.
- ความสูง Ground Clearance 94 มม.
- น้ำหนักรถเปล่า 1,605 กิโลกรัม
- กระจายน้ำหนักหน้า:หลัง 50:50
สเปค Aston Martin Vantage 2025
- เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร Twin turbo (วางหน้าแบบ Front-mid Engine)
- ปรับแต่งให้มีกำลังสูงขึ้น โดยการเพิ่มขนาดเทอร์โบ และปรับแต่งแคมชาฟท์
- เกียร์อัตโนมัติ ZF 8-Speed
- ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD
- พละกำลัง 665 แรงม้า (เพิ่มมากขึ้น 30% ได้เพิ่ม 15 แรงม้าจากรุ่นก่อน)
- แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร (เพิ่มมากขึ้น 15% ได้เพิ่ม 115 Nm จากรุ่นก่อน)
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.
- ช่วงล่างด้านหน้า Double wishbone คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
- ช่วงล่างด้านหลัง Multi-link คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
- โช้กอัพ Bilstein DTX แบบ Adaptive (ช่วงซับกว้างขึ้นถึง 500% กว่ารุ่นก่อน)
- เฟืองท้ายแบบ Electronic Rear Differential
- ล้ออัลลอย Spoke Forged 5 ก้านคู่ ขนาด 21″
- ยาง Michelin Pilot Sport S 5 AML หน้า 275/35 ZR21
- ยาง Michelin Pilot Sport S 5 AML หลัง 325/50 ZR21
- จานเบรกโลหะเจาะรูระบายความร้อน Caliper brake หน้า 6 พ็อต และหลัง 4 พ็อต
การออกแบบภายนอก
ด้านหน้าออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจาก Aston Martin One-77 กระจังหน้ากว้างกว่าเดิม 38% เพิ่มประสิทธิภาพการนำอากาศมาระบายความร้อนได้ดีขึ้น 29%
- ไฟหน้า Matix LED ดีไขน์ใหม่ พร้อม Daytime Running Light ในตัว สะท้อนเอกลักษณ์ของ Aston Martin ยุคใหม่
- Diffuser และท่อใหญ่ขึ้นดูสมส่วนกว่ารุ่นก่อน
- เพิ่มโป้งท้ายถึง 30 มม.
- กล้องรอบคัน 360° กล้องหลังแบบซ่อน
การออกแบบภายใน
ภายในดีไซน์หรูหราวัสดุและการตกแต่งสวยงามสมกับเป็น Aston Martin แต่ยังเน้นให้ผู้ขับขี่โฟกัสและสบายใช้งานทุกวันได้จริง
- พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้าแปรผันอัตโนมัติ (Variable Electrical Power Assistance)
- เบาะ Comfort Seats ปรับ 16 ทิศทาง วัสดุ Alcantara (เบาะ Performance เป็น Option)
- จอทัชสกรีนอเนกประสงค์ Pure Black ขนาด 10.25 นิ้ว
- จอหลังพวงมาลัยสำหรับผู้ขับขี่ 10.25 นิ้ว
- ระบบอินโฟเทนเมนท์เจนใหม่ เช่นเดียวกับรุ่นพี่ DB12 รองรับทั้ง iOS
และ Android - โหมดการขับขี่ 5 โหมด Wet, Sport, Sport Plus, Track และ Individual
- ระบบ ATC ปรับตั้งค่าระดับ Traction Control ได้ 8 Level หรือสามารถปิดได้
- ตกแต่งด้วย Jubilee เพิ่มความหรูหรา
- ลำโพง Aston Martin Audio System 11 ตัว (ลำโพง Bower and Wilkins 15 ตัว เป็น Option)
The New VANTAGE ราคาเริ่มต้น : 21,900,000 บาท (นำเข้า CBU)
สามารถปรับแต่งภายนอกและภายในได้ที่แผนก Q by Aston Martin ที่ Aston Martin Showroom Siam Paragon หรือ Aston Martin Showroom Rama3