เมื่อเดือนที่ผ่านมา Toyota สามารถขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดบ้านเกิดของตนได้เพียง 18 คัน เท่านั้น ซึ่งยอดขายนี้ได้รวมรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์หรูอย่าง Lexus เข้าไปด้วย
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ในญี่ปุ่น ลดลงเหลือเพียง 18 คันต่อเดือน
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ทั่วโลกจะอยู่ที่กว่า 17,000 คัน ในเดือนสิงหาคม แต่ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท กลับมียอดขายตกต่ำเหลือเพียง 18 คัน โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่เหลืออีก 17,038 คัน ถูกขายในตลาดต่างประเทศ เช่น ยุโรป จีน และอเมริกาเหนือ
สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 นี้ Toyota และ Lexus ได้ขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEVs) ทั่วโลกไปแล้ว 117,031 คัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะแซงยอดขายรวมของปี 2024 ที่ขายไปประมาณ 140,000 คัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นแตกต่างออกไปมาก โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota รวม Lexus ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคมทำได้เพียง 469 คัน ซึ่งห่างไกลจากยอดขายรวมทั้งปี 2024 ที่ทำได้ 2,038 คัน
สาเหตุของปัญหาในตลาดญี่ปุ่น
ปัญหาการขายรถยนต์ไฟฟ้าได้น้อย ไม่ได้เกิดขึ้นกับ Toyota เพียงรายเดียวเท่านั้น ประเทศญี่ปุ่นยังตามหลังจีนและประเทศอื่น ๆ ในด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สาเหตุหลักมาจาก การขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ และมี ตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าน้อยกว่า เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฮบริดทั่วไป
แม้แต่ BYD ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก ก็ยังคงประสบปัญหาในการเจาะตลาดญี่ปุ่น นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกในเดือนมกราคม 2023 จนถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ BYD ขายรถยนต์ได้เพียง 5,300 คัน เท่านั้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย BYD จึงได้เสนอส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านเยน (ประมาณ 219,472 บาท) ซึ่งเมื่อรวมกับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ส่วนลดนี้สามารถลดราคารถยนต์ลงได้ถึง 50%
ในทางกลับกัน ยอดขายรถยนต์ ไฮบริดของ Toyota ในญี่ปุ่นกลับ เพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในปีนี้ โดยมียอดขายกว่า 603,600 คัน ส่วนยอดขายไฮบริดนอกประเทศญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้น 14% โดยขายไปแล้วกว่า 2.3 ล้านคัน จนถึงเดือนสิงหาคม
ตามรายงานของ BloombergNEF คาดว่าปีนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 3.4% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในญี่ปุ่น แต่ก็คาดว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นอีกในอนาคต
เพื่อตอบรับแนวโน้มนี้ ผู้ผลิตรถยนต์หลายราย รวมถึง Honda และ BYD กำลังจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น โดย BYD วางแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าประเภท Kei Car เพื่อแข่งขันกับ Nissan Sakura ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังจะต้องแข่งขันกับ Honda N-ONE e ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 12 กันยายน โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 2.7 ล้านเยน (ประมาณ 592,574 บาท)
ที่มา electrek