ใน ,

ถึงที Toyota! เผยซอฟต์แวร์ใหม่ใน RAV4 ยอดขายอันดับ 1 บอกใบ้อนาคตรถ EV ของค่าย

Toyota ได้สร้างกระแสฮือฮาในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาด้วยการเปิดตัว RAV4 เจเนอเรชันที่ 6 ซึ่งในรุ่นใหม่นี้จะมีเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริดเท่านั้น อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่และหรูหรากว่าเดิม โดยรุ่น RAV4 GR Plug-in Hybrid สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง  80 กม. แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไปก็คือ RAV4 รุ่นปี 2026 นี้ยังเป็นการเปิดตัวแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ใหม่ของ Toyota ที่มีชื่อว่า Arene อีกด้วย

ถึงที Toyota! เผยซอฟต์แวร์ใหม่ใน RAV4 ยอดขายอันดับ 1 บอกใบ้อนาคตรถ EV ของค่าย

ที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้ชะลอการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า และยังตามหลังคู่แข่งในด้านซอฟต์แวร์อีกด้วย แต่ตอนนี้นับตั้งแต่ RAV4 รุ่นปี 2026 เป็นต้นไป พวกเขาจะเริ่มนำเสนอคุณสมบัติด้านซอฟต์แวร์พื้นฐานที่คู่แข่งมีมานานหลายปีแล้วออกมาบ้าง

 

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น bZ ปี 2026 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะได้รับซอฟต์แวร์ที่ดีขึ้นเช่นกัน แต่ Toyota เลือกใช้ RAV4 รุ่นใหม่ในการเปิดตัวฟีเจอร์เด็ด ๆ ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะรถ SUV รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Toyota ในสหรัฐอเมริกา และเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของประเทศ ด้วยยอดขาย 475,000 คันในปีที่แล้ว

Toyota กล่าวว่า RAV4 ใหม่จะมาพร้อมกับจอแสดงผลในห้องโดยสารที่เหมือนกับสมาร์ทโฟน, เลย์เอาต์ที่ปรับแต่งได้ และ UI ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด เป็นครั้งแรกที่ Toyota นำการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G, คำสั่งเสียงแบบบทสนทนา และฟังก์ชันบันทึกการขับขี่สไตล์กล้องติดหน้ารถ ซึ่งจะใช้กล้องของตัวรถเพื่อบันทึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ทำให้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกเพิ่มเติม

การอัปเกรดเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วย Arene ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicle – SDV) แรกของค่าย ที่เปิดตัวใน RAV4 และจะถูกนำไปใช้เป็นพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ RAV4 ใหม่จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบออนไลน์ (Over-the-air updates) ได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม RAV4 ปี 2026 จะยังไม่ใช่รถยนต์ SDV เต็มรูปแบบเหมือนอย่าง Tesla Model Y หรือ Lucid Air แต่ Toyota กล่าวว่านี่เป็นเพียงก้าวแรก โดยส่วนของห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) จะสามารถอัปเกรดผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับตัวถังและระบบการขับเคลื่อนจะไม่สามารถอัปเกรดในลักษณะเดียวกันได้

การปรับปรุงซอฟต์แวร์เหล่านี้จะนำฟีเจอร์ที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่ RAV4 GR Plug-in Hybrid รุ่นใหม่หลายอย่าง เช่น จะสามารถตั้งค่าขีดจำกัดเปอร์เซ็นต์การชาร์จจากหน้าจออินโฟเทนเมนต์ และยังสามารถตั้งเวลาล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมของแบตเตอรี่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เจ้าของรถยังสามารถใช้แบตเตอรี่ไฮบริดเพื่อเปิดหรือปิดการจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ได้เช่นกัน

ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงฟังก์ชันเหล่านี้ได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน Toyota และเป็นครั้งแรกที่ฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถ เช่น การเปิดไฟหน้า, ไฟฉุกเฉิน หรือแม้กระทั่งการเปิดฝากระโปรงท้ายและหน้าต่าง ก็สามารถทำได้จากระยะไกลผ่านแอป Toyota

นอกจากนี้ หน้าจออินโฟเทนเมนต์และแผงหน้าปัดของ RAV4 ปี 2026 จะมี UI ที่คล้ายกับสมาร์ทโฟน และใช้คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว ผู้ขับขี่จะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ต สำหรับระบบนำทาง, โหมดการขับขี่, เครื่องเสียง, สภาพอากาศ และยังสามารถจัดกลุ่มวิดเจ็ตเหล่านี้เป็นชุด ๆ ละสองหรือสามอย่างได้ ตัวอย่างเช่น หากสนใจแค่แผนที่ (Maps) และ Spotifyก็สามารถเลือกให้วิดเจ็ตสองอย่างนี้แสดงผลโดดเด่นกว่าฟังก์ชันอื่น ๆ ได้

 

คำสั่งเสียงแบบบทสนทนาที่ใช้ “ภาษาที่เป็นธรรมชาติ” มากขึ้น จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับระบบปรับอากาศ, เครื่องเสียง และแม้กระทั่งช่วยคำนวณเลขขั้นพื้นฐาน ได้ ซึ่งมีประโยชน์มากหากผู้ขับขี่กำลังขับรถและพยายามคำนวณความเสียหายของเงินในกระเป๋าหลังจากการชอปปิ้ง

และ Toyota ยังกล่าวอีกว่าระบบ ADAS ของ RAV4 จะล้ำหน้ายิ่งขึ้น โดยจะใช้โมเดล AI เพื่อตรวจจับวัตถุโดยรอบ, ตรวจสอบความสนใจของผู้ขับขี่ และปรับปรุง UI ให้ดีขึ้น

RAV4 รุ่นปี 2026 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ และเราจะได้เห็นกันว่าระบบของ Toyota จะยกระดับด้านซอฟต์แวร์ที่สำคัญอย่างแท้จริงหรือไม่

ที่มา insideevs

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.