ใน ,

รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และหัวเทียน แล้วต้องบำรุงรักษาอย่างไรบ้าง

เราคงได้ยินหรือการบอกกันมาว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ไม่จำเป็นต้องรับบริการน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรืออื่น ๆ เรามาชมกันว่าหากไม่จำเป็นต้องเป็นต้องเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ จะต้องดูและรักษารถอย่างไรบ้าง

รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และหัวเทียน แล้วต้องบำรุงรักษาอย่างไรบ้าง

Tesla ติดป้ายที่ศูนย์บริการ Service Center ในต่างประเทศเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์ Tesla โดยระบุว่า รถยนต์ Tesla ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หัวเทียน หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เพื่อลดการเดินทางไปยังศูนย์บริการน้อยลง

ในหน้าเว็บไซต์การบำรุงรักษารถก็ระบุชัดเจนว่า “รถ Tesla ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การบำรุงรักษาระบบน้ำมันเชื้อเพลิง การเปลี่ยนหัวเทียนแบบดั้งเดิม หรือตรวจสอบการปล่อยมลพิษซึ่งแตกต่างจากรถที่ใช้น้ำมัน แม้แต่ผ้าเบรกก็แทบจะไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย เนื่องจากระบบเบรกรีเจนเนอเรทีฟสามารถส่งพลังงานกลับไปยังแบตเตอรี่ จึงเป็นตัวช่วยลดการสึกหรอของเบรกได้อย่างมาก” และ Tesla ได้แนะนำบริการบำรุงรักษารถดังนี้

แผ่นกรองในห้องโดยสาร

รถ Tesla ได้ติดตั้งแผ่นกรองที่ป้องกันละอองเกสรดอกไม้ เศษฝุ่นทางอุตสาหกรรม ฝุ่นถนน หรืออนุภาคอื่น ๆ ไม่ให้เข้ามาในช่องอากาศได้ Tesla จึงแนะนำให้เปลี่ยนแผ่นกรองในห้องโดยสารทุก ๆ 2 ปี

แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง (HEPA)

กรณีที่รถ Tesla ติดตั้งแผ่นกรองอากาศ HEPA แนะนำให้เปลี่ยนแผ่นกรอง HEPA และแผ่นกรองคาร์บอนทุก ๆ 3 ปี

การสลับยาง การถ่วงล้อ และการตั้งศูนย์ล้อ

แนะนำให้สลับตำแหน่งยางทุก ๆ 10,000 กม. หรือหากความลึกของดอกยางคู่ใด ๆ มีความแตกต่างกัน 1.5 มม. หรือมากกว่า แล้วแต่ว่าจะถึงอย่างใดก่อน

การขับขี่แบบดุดันอาจทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้น และอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยางบ่อยขึ้น ล้อและยางที่ไม่สมดุลและไม่ตรงแนวส่งผลต่อการควบคุม อายุการใช้งานของยาง และองค์ประกอบการบังคับเลี้ยวได้

การสลับยางสามารถเข้ารับบริการที่ร้านบริการยางและศูนย์ถ่วงล้อทั่วไปได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสลับที่ศูนย์บริการ

การทดสอบน้ำมันเบรก

แนะนำให้ทดสอบการปนเปื้อนของน้ำมันเบรกโดย กำหนดเวลาการนัดหมายเข้ารับบริการของ Tesla ทุก ๆ 4 ปีและเปลี่ยนใหม่ตามความจำเป็น

หมายเหตุ: การใช้เบรกอย่างหนักเนื่องจากการลาก การลงภูเขา หรือการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถที่ใช้ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น อาจต้องตรวจสอบและเปลี่ยนน้ำมันเบรกบ่อยขึ้น

บริการปรับอากาศ

บริการปรับอากาศจะเปลี่ยนถุงดูดความชื้นระบบปรับอากาศเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศ Tesla แนะนำให้ปฏิบัติตามกำหนดการบริการปรับอากาศต่อไปนี้

  • Model 3 เปลี่ยนถุงดูดความชื้นระบบปรับอากาศทุก ๆ 4 ปี**
  • Model Y เปลี่ยนถุงดูดความชื้นระบบปรับอากาศทุก ๆ 4 ปี

**แนะนำให้เปลี่ยนถุงดูดความชื้นระบบปรับอากาศทุก ๆ 6 ปีสำหรับ Model 3 ที่ผลิตในปี 2017-2021 หากไม่มีปั๊มความร้อน

การดูแลในฤดูหนาว

แนะนำให้ทำความสะอาดและหล่อลื่นคาลิปเปอร์เบรกทุก ๆ 12 เดือนหรือ 20,000 กม. สำหรับรถในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น

การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง

หากแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันไฟสูงจะต้องได้รับการบำรุงรักษา รถจะแจ้งเตือนโดยแสดงข้อความบนหน้าจอสัมผัสของรถเพื่อแจ้งว่า รถควรเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ

ระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงจะต้องซ่อมโดยช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมเท่านั้น อย่าเปิดหรืองัดแงะแบตเตอรี่โดยเด็ดขาดในทุกกรณี อย่าถอดชิ้นส่วน ถอด หรือเปลี่ยนส่วนประกอบ สายเคเบิล หรือปลั๊กต่อสายไฟแรงดันสูงเอง

การบำรุงรักษารถยนต์ Tesla อาจจะไม่ต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่บางอย่างเหมือนกับการบำรุงรักษารถยนต์น้ำมัน เนื่องจากการทำงานของส่วนประกอบการขับเคลื่อนของรถยนต์ที่แตกต่างกัน เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า ระบบเกียร์ เป็นต้น จึงอาจจะไม่ต้องได้รับการบำรุงรักษในระยะเวลาที่กำหนดเหมือนรถยนต์น้ำมัน [ศึกษาเกี่ยวกับระบบเกียร์ Tesla เพิ่มเติม]

นอกจากนี้การที่ไม่ต้องเข้ารับบริการเช็คระยะบ่อยครั้ง ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะ รวมถึงลดเวลาการเดินทางไปยังศูนย์บริการ Tesla Sevice Center ได้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีศูนย์บริการเดียวในกรุงเทพฯ ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปศูนย์บริการบ่อย ๆ

อย่างไรก็ตามเจ้าของรถยนต์ Tesla จะต้องศึกษาคู่มือเจ้าของรถ เนื่องจากคู่มือนั้นมีการระบุการบำรุงรักษารถอย่างละเอียด และต้องคอยสังเกตการแจ้งเตือนบนหน้าจอรถยนต์ว่ามีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความผิดปกติของรถยนต์ส่วนใด จากนั้นก็ติดต่อกำหนดเวลาการนัดหมายเข้ารับบริการผ่านแอป Tesla

ขอบคุณ Blink Drive

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.